ประสบการณ์ฝึกงาน

มิ้นท์ ภาศินีย์ เกิดวิบูลย์

สาขาออกแบบนฤมิตศิลป์
คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ ผังเมืองและนฤมิตศิลป์

สวัสดีค่ะ ชื่อมิ้นท์ ภาศินีย์ เกิดวิบูลย์ นิสิตคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ ผังเมืองและนฤมิตศิลป์ สาขาออกแบบนฤมิตศิลป์ จากมหาวิทยาลัยมหาสารคามค่ะ รุ่น#MJR1002ค่ะ ก่อนมาฝึกงานก็เครียดและตื่นเต้นมาก กลัวไม่มีที่ฝึกงานกลัวไม่ผ่านอะไรก็บลาๆๆ แต่คือเราหาไว้ตั้งแต่ช่วงปีสองละ แล้วก็เจอเว็บเมาเทนเว็บแรกเลย เราก็อ่านคุณสมบัติต่างๆนาๆแล้วแบบ.. ถูกใจมากกกกกกกกก อยากเข้าที่นี่ว่ะ แต่ก็บ่นกับเพื่อนว่ากลัวเค้าจะไม่รับ เพื่อนก็จะแย่งสมัครด้วยตอนนั้น เกือบจะเคืองกันเลยก็ว่าได้ แต่ถึงเวลาจริงๆเราก็ส่งไปหลายๆทีรวมถึงเมาเทนด้วย แต่ตอนนั้นจำได้ว่าตั้งใจกรอบฟอร์มในเว็บมาก อยากได้มาก เสร็จแล้วเราก็นั่งอ่านรีวิวด้วยความตื่นเต้น จนกระทั่งมีที่อื่นตอบรับเราก่อน แต่เมาเทนก็ไม่ตอบกลับมา คือมันเลย 10 วันไปแล้วอะ เราก็ทำใจจนลืมไปแล้วว่าไม่ได้แน่ๆ จนกระทั่งทุ่มกว่าๆของวันส่งโปรเจค จำได้ว่าพึ่งตื่นแบบงัวเงียเลย เราก็เลยเชคเมล์ ปรากฏว่าเมาเทนตอบกลับจ้า 17วันหลังวันที่ส่งใบสมัคร “ทำเรื่องส่งตัวมาได้เลยค่ะ” ดีใจมากกกก ถึงมากที่สุด หลังจากนั้นเราก็อวดเพื่อนไม่หยุดเลยจ้า 555555555 

วันแรกที่เข้ามาฝึกคือเจอเซอไพรส์จ้าคือมาแบบหลงๆพี่ๆถามกันงงๆว่าน้องมาฝึกงานหรอครับ? ทำไมพวกพี่ไม่รู้เราก็แบบ..ตายละทำไงดีวะพี่ๆก็ยิงคำถามมารัวๆมาเลยจ้ามาสัมภาษณ์รึยังครับ ?/ มารายงานตัวรึยัง ?” ชิปหาไม่เจอละ!!! ประเด็นคือเรายังไม่เคยทั้งสองทำไงดีวะหลุดแน่ได้ฝึกพร้อมน้องแน่ๆเกิดสถานการณ์ในบ้านแบบงงๆเราก็งงพี่ๆก็งงทำไงดีวะแต่สุดท้ายพี่ต๊ะก็อนุญาตให้ฝึกงานได้ในวันนั้นก็โล่งอกกันไปตั้งวันแรกจนวันสุดท้ายเราบอกเลยว่ารักที่นี่มากเมาเทนให้อะไรได้หลายๆอย่างมากกว่าประสบการณ์ในการทำงานมิตรภาพเพื่อนฝูงความรู้ความสุขความสนุกเทคนิคทั้งการทำงานและการใช้ชีวิตที่พี่ๆเพื่อนๆมาแชร์ๆกันและตลอดเกือบๆสองเดือนไม่มีวันไหนไม่อยากมาทำงานเลยสนุกมากจริงๆนะ 

พี่เอล์ฟ : พี่เอล์ฟพี่เอล์ฟและพี่เอล์ฟ”  พี่เอล์ฟเป็นคนนึงที่แบบสุดอะ 5555555 เป็นคนที่แบบมีความสามารถหลากหลายมาก มีเทคนิคการทำงานหลายๆอย่างมาคอยสอนน้อง คอยให้คำปรึกษาเรื่องงานได้ บางทีวันไหนนั่งข้างพี่เอล์ฟแล้วเหลือบไปมองงานพี่เอล์ฟบางทีก็ใจฝ่อ…เมื่อกลับมามองงานตัวเอง  ฮ่าๆ ในตัวตนของพี่เอล์ฟ มิ้นถูกใจมากที่สุดคือการพากย์หนังเรื่อง “พยัคฆ์ร้าย ส่ายหน้า ฉากตอนซื้อประทัด” แล้วก็เรื่องที่พี่เอล์ฟเล่าว่ามีคนปล่อยหมูเข้ามัสยิด เรื่องนั้นทำให้เราขำค้างเป็นอาทิตย์ได้เลย คือแบบคิดกี่ทีก็ขำ เสียงพี่เอล์ฟมันลอยเข้ามาในหัว พี่เอล์ฟเป็นคนที่คอยสร้างเสียงหัวเราะให้ทุกคนในสตู มีมุขแบบเศษมุขให้ทุกคนขำ สรรหาสารพัดคำพูดมาพูดให้ดูตลก ซึ่งมันตลกจริงๆเว้ย แล้วแบบบางทีแค่พี่เอล์ฟไอเบาๆ หรือแค่ถอนหายใจมิ้นยังขำได้อะ พี่แม่งที่สุดจริงๆ จนกระทั่งวันที่พี่เอล์ฟใกล้จบก็แบบแอบเปลี่ยวใจนะว่า ถ้าไม่มีพี่เอล์ฟแล้วเราจะยังขำเหมือนเดิมป่าววะ มันเลยเกิดมาเป็นวลีเด็ดที่ทำให้พี่เอล์ฟขนหัวลุกยันขนตูด พี่เอล์ฟคือความสุขของหนู ฮ่าๆ ขอโทษนะพี่เอล์ฟ ถ้าจะอ้วกหนูอนุญาต หวังว่าเราจะได้เจอกันอีกนะหม่ำๆ ถึงแม้พี่จะไม่อยากเจอหนูก็ตาม อิอิ 

พี่เต้ย : พี่เต้ยหรอ ตอนที่มิ้นมาอะ พี่เต้ยจบไปนานแล้ว แต่พี่เต้ยยังมาวนเวียนที่เมาเทน เราก็คิดว่พี่เต้ยยังฝึกงานอยู่ แต่จริงๆไม่ใช่เลย พี่มาปูกระเบื้อง ในความเป็นจริงๆถ้าไม่มองในสิ่งที่คนอื่นพูดถึงพี่ในทางลบๆ พี่ก็เป็นคนนึงที่ดีมากๆ เก่งมาก จำได้ว่าตอนมาฝึกงานวันแรก ยังเอ๋อๆเรื่องการออกแบบ ยังจ่มอยู่กับแบบเดิมๆ พี่เต้ยก็มาช่วยพูด ช่วยอธิบายว่าเราควรเริ่มยังไง ไปยังไง ทำยังไงเพื่อให้มันโอเคขึ้นกว่าเดิม แล้วก็มีโอกาสได้เห็นงานของพี่เต้ยก็รู้สึกว่า แม่งสุดจริง แต่เอาจริงๆนะ แต่ถ้าใครที่คิดจะคุยกับพี่เต้ยตอนเมาละก็ให้เตรียมใจไว้เลย ว่ายาวว ยาวแบบยาวปายยยยย ยาวไปเล๊ยยยยย ไม่จบไม่สิ้น ประสบการณ์ที่สุดโต่งแบบนี้เคยสัมผัสอยู่สองครั้งคือครั้งเราเมาแล้วก็คุยเรื่องแฟนเก่า แฟนใหม่ กิ๊กเก่า กิ๊กใหม่อย่างงั้นอย่างงี้ แล้วแบบอีกอาทิตย์นึงผ่านมา เราก็หลงทางมาคุยกันใหม่ ปรากฏว่า อ่าว…เราคุยกันไปแล้วนิ แต่เราแม่งก็คุยเรื่องเดิมกัน แบบเดิมเป๊ะๆกันอีกครั้งนึง คิดแล้วก็ฮา ฮ่าๆ จริงๆทุกครั้งที่มีวงก็อยากมีพี่เต้ยอยู่ในวงทุกครั้ง ฮ่าๆ ไว้วันไหนมีวงก็มาด้วยนะพี่เต้ย งิงิ

พี่เบนซ์ : พี่เบนซ์ Web Developer รุ่นพี่จากรุ่น MTV901 & MTV902 ที่มาทำงานในเมาเทน พี่ใหญ่ของน้องๆ ถ้าจำไม่ผิดพี่เบนซ์น่าจะมาพร้อมกันกับวันแรกที่หนูมาปะ พี่เบนซ์เป็นคนที่ไม่ค่อยพูด(ในช่วงแรกๆ)เป็นคนที่เงียบมากกกกกกก ก.ไก่ล้านตัว โชคดีแค่ไหนแล้วที่ยังได้ยินเสียงลมหายใจของพี่เบนซ์อยู่ ฮ่าๆ เป็นคนที่เงียบจนกระทั่งพี่ต๊ะตั้ง challenge ขึ้นมาว่า ให้ทุกคนคุยกับพี่เบนซ์ให้ได้วันละ 5 ประโยคต่อคน แต่เมื่อเวลาผ่านไปความเป็นตัวเองของพี่เบนซ์ก็เผยออกมา แต่จะออกมามากเป็นพิเศษเมื่อพี่เบนซ์กระดกแอลกอฮอร์ ฮ่าๆ จริงๆพี่เบนซ์เป็นคนกวนนะ กวนแบบคนเงียบๆเค้ากวนกันอะ แต่บางทีก็มีความอ๋องแบบเอ๋อๆปนๆอยู่บ้าง แต่ที่แน่ๆพี่เบนซ์เป็นคนเก่งในเรื่องงาน พี่เบนซ์ทำงานได้แบบไม่เคยบ่นเลยสักนิด ขอบคุณนะคะพี่เบนซ์ที่คอยเปิดประตูให้หนูตอนเช้าทุกวัน ฮ่าๆ ไว้เจอกันใหม่นะคะพี่เบนซ์ เดี๋ยวซื้อหมูปิ้งชุบกับข้าวไข่เจียวไปฝาก งิงิ

เมาส์ : ครั้งแรกที่เราเจอเมาส์ เมาส์แบบเก่งมากอะเรื่องคอม อารมณ์แบบโปรแกรมเมอร์อะแล้วก็เรื่องงานช่าง คือเมาส์ทำเป็นหมด โคตรเท่อะ พิเศษกว่านั้นคือเมาส์เป็นคนที่สามารถหั่นหอมแดงแล้วไม่ร้องไห้ได้ แล้วแบบช่วงอาทิตย์แรกๆที่เข้ามาคือเราไม่กล้าคุยกับเมาส์เลย แบบคุยกันน้อยมาก ช่วงนั้นก็แอบเผลอคิดไปว่าเมาส์หยิ่งวะ อะไรแบบนี้ฮ่าๆ แต่พออาทิตย์ที่สองได้รู้จักกันจริงๆแล้วแบบ ชิปหาไม่เจอ(หาย) เมาส์กวนมากกกกก เรื่องหญิงต้องยกให้เมาส์ในวินาทีนั้นเลย ฮ่าๆ ยิ่งถ้าได้รวมตัวกับท่านมังกรเทพแล้ว โอ้โหหห อย่าให้พูดถึง ฮ่าๆ  จริงๆเรากับเมาส์มีเวลาได้ทำงานร่วมกันน้อยมากๆ ประมาณสามอาทิตย์ได้ อาทิตย์แรกไม่ค่อยคุยกัน อาทิตย์ที่สองเริ่มคุย อาทิตย์ที่สามกำลังลงตัว แล้วแบบเมาส์ก็ออกแล้วอะ มันเลยเกิดความรู้สึกเสียดายเวลาที่ผ่านมา เราน่าจะสนิทกันไวกว่านี้ ถึงจบไปแล้วยังไงก็อย่าแว๊นบ่อยนะน้อง เปลี่ยนท่อได้แล้ว กลับมาเป็นโปรแกรมเมอร์เหมือนเดิมนะเมาส์ ไว้มาเจอกันใหม่ ในโอกาสหน้าเด้ออออ หนุ่มปราจีน 

เอิรธ์ : จ้าวเอิร์ธ เอาจริงๆก็ฟีลแบบเมาส์เลย คือกว่าจะจูนกันติดก็เสียเวลาไปหลายอาทิตย์ แต่ยังดีที่เอิร์ธมีเวลามากกว่า เราเห็นเอิร์ธครั้งแรกก็แอบงงนะว่า ผู้หญิงป่าวะ ? จริงๆอะเอิร์ธเป็นผู้หญิงที่ดูไม่เป็นผู้หญิง  นางชอบทำอะไรแมนๆ เอิร์ธชอบแต่งตัวนะ แต่ไม่ชอบแต่งหน้า แล้วนางก็เป็นผู้หญิงคนเดียวที่เข้าร่วมวงปูกระเบื้อง คือแมนจริ๊งงง ยอมใจความแมน แต่นางเป็นผู้หญิงนะ ฮ่าๆ และอีกอย่างนางกวนอะ กวนกว่าเมาส์อีก คำพูดที่กวนที่สุดของนางคือ จริงหงอววววว / ก็มาดิค๊าบบบบ / เออ..เอิร์ธผิดเอ๊ง ใครที่อยู่ในระแวกนั้นต้องมีเคืองเท้ากันบ้างแหล่ะ แล้วเสียงของเอิร์ธก็จะวนเวียนในหัวทั้งวัน แต่แบบมันก็ฮาอะ แต่เรื่องการทำงานก็ถือว่าสุดโต่งจริง เป็นผู้หญิงคนเดียวมั้งที่กลับบ้านดึกที่สุด ยอมใจอะเรื่องนี้ บางทีเราอาจจะได้เจอกันในตลาดของมือสองก็ได้นะเอิร์ธ ไว้เจอกันไอ้หนู 

วา : วาเป็นเพื่อนคนแรกของเราในเมาเทน คนแรกจริงๆ เพราะคนแรกที่เราเจอคือวา วาก็ทำหน้าแบบงงๆ ว่าใครวะ แล้วเราก็สนิทกันไวมาก เพราะวันแรกที่เรามา วาก็มาได้แค่สามวัน จำได้วาอาทิตย์แรกได้ไปซื้อของสดด้วยกันทุกวัน อยู่ทำงานข้างล่างด้วยกัน แล้ววาเป็นคนที่ทำงานด้วยความรอบคอบ คอยจัดสรรเรื่องเวรประจำสัปดาห์ คอยเตือนเรื่องการส่งงาน ทำงานเป็นระบบระเบียบมากกกก แล้วเรื่องน้ำใจในการทำงานนางก็มีเยอะนะ แบบถ้าคนไหนงานเยอะคือจะช่วยทุกครั้ง ไม่มีเกี่ยงงาน แต่เอาเข้าจริงๆแล้ว ถ้าไม่คิดถึงเรื่องงาน วาจะเป็นคนละคนเลย แบบตรงกันข้าม คือนางอ๋องอะ ฮ่าๆ ยิ่งตอนที่แอลกอฮอร์เข้าปากนางแล้ว นางจะยิ่งอ๋อง ทำอะไรแบบอ๋องๆ ฮ่าๆ อ๋องแม้กระทั่งก็ตอนกินข้าว เพราะกระเทียมเจียวคือชีวิตของวา ในครัววาจะชอบตำกระเทียมทุกวัน แล้ววันไหนมีกระเทียมเจียว ต้องแบบส่วนพิเศษไปใส่จานข้าวของนางโดยเฉพาะ คือแบบ กระเทียมเจียวคือชีวิตจริงๆ ฮ่าๆ ลืมยากนะคนนี้คิดว่า เราอาจจะได้เจอกันบ่อยๆนะน้องอ๋อง ถ้ามีโอกาสจริงๆ 

นา : สำหรับนา เราออกตัวก่อนเลยว่า เราขอโทษ ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับหมูและเล้งนะนา นาเป็นสาวมุสลิมที่ดูไม่เป็นมุสลิมเลยยยย ครั้งแรกเราตื่นเต้นมากที่จะมีเพื่อนมุสลิมมาฝึกงานด้วย พอเจอนาครั้งแรกปุ๊ป เกิดคำถามในหัว “มุสลิมจริงป่าววะ ?” คือภาพลักษณ์ต่างไปจากสาวมุสลิมที่เราเห็นแถวบ้านเลย มาแรกๆนางก็เงียบๆแหล่ะ ไม่ค่อยพูดไม่ค่อยจา แต่อย่าให้พูดแหล่ะดีแล้ว เพราะแต่ละคำที่พูดออกมาคือเจ็บยันขั้วหัวใจ จนต้องได้อุทานว่า “แร๊งงงงงงงง่า” แต่เราก็สามารถเข้าขากันได้ไม่ต่างกับวาเลย เรื่องงานของนาคือมีสไตล์เป็นของตัวเองชัดเจนมาก งานเจ๋งอะ เราให้นางเป็นที่สองของที่นี่เลย มันมีความเท่อะ ดูแล้วรู้เลยว่างานนาแน่ๆ ยังไงก็ไว้มีโอกาสเราไปกินหมูกระทะด้วยกันนะ ล้อเล่นนะเตงง ไม่แน่นะนา ในอนาคตเราอาจจะได้เจอกันในมัสยิดก็ได้นะ ฮ่าๆๆ เลิฟยูวๆๆ 

กะทิ : น้องกะทิ กะทิเป็นคนเดียวที่ต่างจากผู้หญิงทุกคนในเมาเทน  คือนางจะเรียบร้อยมากก พูดจาช้าๆ กุลสตรีไม่มีคำหยาบ ให้นึกถึงแอฟ ทักษอรเป็นตัวอย่าง สาวหวานนนนนที่ชายทุกคนในเมาเทนหมายหัวไว้ ฮ่าๆ แต่ถ้าใครได้รู้จักกะทิจริงๆแล้ว ไม่เด้อไม่ กะทิไม่ใช่แบบนั้น นางเม้าเก่งค่ะคู๊ณณณณ อย่าเผลอไปเม้าเรื่องผู้หญิงๆกับนางนะ ยาวค่ะยาวววววว นี่ก็เป็นอีกคนที่เข้าขากันได้ ถึงเราจะดูคนละแนว แต่ก็เข้ากันได้อะ คุยกันสนุก น่ารักมาก สมคำร่ำลืมที่พี่ๆหลายๆคนรอคอยน้องกะทิ ไว้เจอกันใหม่นะน้องกะทิ ไม่วันใดก็วันหนึ่ง ฮ่าๆ 

ปลาย : ปลายเด็กราชมงคลอีสาน อีสานค่ะอีสานนน เป็นสาวอีสานคนที่สองที่มาต่อจากเรา พอปลายมา เราก็มีความเป็นตัวเองมากขึ้น คือมีเพื่อนในการ speak อีสานนั่นเอง ลาวแตกกันสวดๆเลยเด้อพ่อแม่พี่น้อง ปลายกับเราสนิทกับเร็วมาก ถึงมากที่สุด ที่สุดของที่สุด ตอนเช้ายังพูดเรากับเธออยู่เลย พอตอนเย็นเท่านั้นแหล่ะ โอ้โหหห….!!!  เราเจอคนที่เคมีตรงกันกับเราแล้ว คือใช่อะ คือศีลเสมอกันสุดๆ ปลายเป็นคนที่ดูภายนอกเปรี้ยวๆออกแรงๆ แต่จริงๆไม่ใช่เด้ออ ยังหลงเหลือชีวิตของสาวอีสานตอนล่างอยู่ ดูจากเพลงหมอลำที่เราฟังแล้ว ประหนึ่งว่าเคยไปแด๊นซ์หน้าฮ้านที่เดียวกันมา โคตรโดน!!! ชาขาวมา! แต่โคตรเสียดายที่ปลายมาช่วงสามอาทิตย์สุดท้ายของเรา แต่ดีที่เราสนิทกับเร็วเลยมีเวลาได้สนิทกันนานหน่อย แบบแค่หน่อยเดียว ฮ่าๆ แต่ยังไงเธอก็จะอยู่อีกตั้งสี่เดือน ถ้ามีโอกาสเราอาจจะมาเยี่ยมเธอและเมาเทน (ถ้าพี่ต๊ะอนุญาตนะ) 

อาร์ต : หนุ่มหล่อจากม.ขอนแก่น เจออาร์ตวันแรกแล้วก็ได้ไปซื้อของสดด้วยกันเลย เลยถือโอกาสทำความรู้จักซะ ในตอนนั้นเราก็รู้สึกว่า อิหยังวะ? คือมันดูเหมือนคนยังไม่ตื่นอะ ตอบแบบ เออ อ่าๆ ได้ๆ อืมๆ แต่สุดท้ายอาร์ตก็เป็นที่สนิทกับทุกคนในเมาเทนได้เร็วมาก ทั้งพี่ๆเพื่อนๆ งานขออาร์ตแม่งที่1 ของที่นี่เลยอะ ยอมงานอาร์ตทุกอันเลย เทคนิคในการทำงานของอาร์ตตดีมาก ทำงานไว มีคุณภาพ แบบเจ๋งอะ แต่ในลุคที่ดูแบดบอยของอาร์ต ทั้งคำพูดคำจาที่กล่าวถึงสรรพคุณของมังกร จนกระทั่งได้รับฉายาว่า”ท่านมังกรเทพ” หลายๆทีเราก็เห็นความดีของอาร์ตอยู่มาก จริงๆอาร์ตดูสุภาพบุรุษนะ ให้เกียรติ์ผู้หญิงอยู่ ฮ่าๆ ถ้าลดความกามลงได้นะ สังเกตจากตอนที่ทุกคนช่วงกันทำความสะอาด หรือตอนเวรไปซื้อของสด เวรล้างจาน อาร์ตจะช่วยเสมอไม่เคยเกี่ยง จะถามทุกครั้งว่าจะให้ทำอะไร เหลืออะไรให้ช่วง  ถึงจะมีบ่นว่าของเยอะอยู่บ้าง แต่นางจะทำ อย่าลืมสักให้เราด้วยนะอาร์ต ไว้เจอกันที่ร้าน..ท่านมังกร” 

พี่ต๊ะ : อันดับแรกต้องขอขอบคุณพี่ต๊ะก่อนเลยค่ะ ที่ให้โอกาสมิ้นได้มาเรียนรู้ประสบการณ์ในการทำงานที่เมาเทน ถึงแม้ช่วงหลังพี่ต๊ะจะบ่นๆว่า”อะไรดลใจให้กูรับมึงมาวะ” ฮ่าๆ ขอบคุณที่ให้ประสบการณ์การทำงานที่ดี ที่ทำให้เจอมิตรภาพที่ดีและทุกอย่างที่เกิดขึ้นในเมาเทนและขอโทษพี่ต๊ะด้วยนะคะในบางสิ่งที่มิ้นอาจจะผิดพลาดไปทั้งที่รู้ตัวและอาจจะไม่รู้ตัว พี่ต๊ะเป็นคนที่ตลกมากๆ สร้างเสียงหัวเราะ สร้างความสุขให้ตลอดๆ ที่ชอบมากที่สุดคือตอนมื้อกลางวัน พี่ต๊ะมาเรื่องเล่าประสบการณ์ชีวิตต่างๆมากมาย มาเล่าสู่กันฟัง บางเรื่องที่มันดูเครียด ทั้งเรื่องของพี่ต๊ะเองหรือปัญหาเรื่องเกรดของวา พี่ต๊ะยังสามารถเล่าให้มันดูตลกและทุกคนก็ขำไปด้วยกันได้ ก็เป็นอีกหนึ่งตัวช่วยที่น้องๆฝึกงานสามารถสนิทกันได้ไวมากๆ คือช่วงเวลานี้แหล่ะ พี่ต๊ะเป็นคนที่ซีเรียสเรื่องงานมากๆถึงมากที่สุด แต่สุดท้ายพี่ต๊ะก็จะสอนทักษะการทำงานที่ดีและมีคุณภาพให้ทุกครั้ง คอยเตือนสติในการทำงานทุกครั้ง มิ้นดีใจที่ได้มีโอกาสได้เข้ามาใช้ชีวิตในช่วงเวลาสั้นๆ แต่คงไม่มีวันลืมเมาเทนจริงๆ ขอบคุณพี่ต๊ะมากๆค่ะ ที่ให้โอกาสมิ้น 

พี่อร : คุณแม่สุดเก่งแห่งเมาเทน พี่อรเป็นใจดีมาก ครั้งแรกที่เรารู้ว่ามาจากนครพนมด้วยคนคือเม้าความเป็นนครพนมไม่หยุดเลยจ้า พี่อรเป็นคนทำอาหารอร่อยมาก อยากทานเมนูไหนพี่อรจัดให้ได้ทุกเมนู จะเมนูที่แปลกขนาดไหนพี่อรก็จัดให้ได้ ตอนแรกก่อนมาฝึกงานกะจะลดความอ้วนแล้วเชียว แต่เจออาหารพี่อรเท่านั้นแหล่ะ ในระยะเวลาแค่ 40 วันของการฝึกงาน ก็ขึ้นมาเกือบๆสี่โลเลย 10วันต่อ 1 โลเลยฮ่าๆ ขอบคุณอาหารอร่อยๆจากพี่อรมากนะคะ อีกหนึ่งในความสุขของหนูคือการได้เข้าครัวกับพี่อรแล้วก็ทานอาหารฝีมือพี่อร หากมิ้นผิดพลาดตรงไหนหรือทำให้พี่อรไม่สบายใจก็ขอโทษด้วยนะคะ ไว้มีโอกาสจะกลับมาเข้าครัวช่วยพี่อรที่นี่ใหม่ค่ะ

น้องฌาดา : นางฟ้าตัวน้อยแห่งเมาเทน ฌาดาเป็นเด็กที่ทำให้พี่รักเด็กมากขึ้นหลายเท่า จากคนที่ไม่ค่อยชอบเด็ก กลายเป็นติดหนูฌาดาซะงั้น ถึงหนูจะแอบกลัวๆพี่บ้างบางเวลา แต่ใน Story ig พี่มีหนูเต็มเลย บางวันเป็นมีเยอะจนเป็น Dot…………. เลย คือมีแต่ฌาดา ฌาดาเป็นร่าเริง น่ารักกับพี่ๆทุกคน หวังว่าถ้าพี่กลับมาหนูจะยังจำพี่ได้นะหม่ำๆ 

พี่ต่อ“ม้ามืด”แห่งเมาเทนเลย พี่ต่อเป็นรุ่นพี่ตั้งแต่รุ่นแรกๆ แรกๆของเมาเทนเลยก็ว่าได้ จนเราเคยชินกับการเรียกพี่ต่อว่า“คุณลุง” ความรู้สึกแรกที่เห็นพี่ต่อคือ เหมือนพี่ต่อจะเป็นคนขี้อาย ไม่ค่อยพูดไม่ค่อยจา แต่จนกระทั่ง…วันนั้น วันที่พวกเราเล่นอูโน่กัน ทุกๆอย่างก็เปลี่ยนไปหมด พี่ต่อร้ายกาจมาก เป็นอีกคนนึงที่นับได้ว่ากวนใช้ได้เลย ถึงเราจะมีเวลาได้ทำความรู้จักกันน้อยมากๆๆๆๆๆ แต่ก็รู้สึกสนุกทุกครั้งที่เล่น ได้พูดคุยกับพี่ต่อ ทั้งตอนเมาและไม่เมา ฮ่าๆ ไว้เจอกันโอกาสหน้านะลุง หวังว่าจะยังอยู่ให้เจอนะหม่ำๆ

สุดท้ายของสุดท้ายแล้วก็ขอขอบคุณพี่ต๊ะและพี่อรอีกครั้งที่ให้โอกาสให้ได้สัมผัสประสบการณ์การทำงานดีๆมิตรภาพดีๆจากหลายๆทีขอบคุณเพื่อนทุกคนที่คอยช่วยเหลือในสิ่งที่เราขาดขอบคุณที่อดทนกับเสียงหัวเราะของเราได้จนจบนะยังไงก็จะคิดถึงทุกคนและถ้ามีโอกาสอาจจะได้รวมทีมกันอีกครั้งทั้งห้ากุมารและทั้ง #MJR1002 เลยนะรักทุกคนนนน”