Mountain Studio รู้จักที่นี่จากเว็บเด็กฝึกงานเพราะเริ่มหาที่ฝึกงานตั้งแต่ปี3 เทอม 1 พอลองอ่านรีวิว อ่านรายละเอียดฝึกงานจากหน้าเว็บแล้วชอบที่นี่มาก อยากมาฝึกที่นี่ เพราะดูอบอุ่น เขียนข้อจำกัดของการมาฝึกงานตรงๆดี ไม่ใช้คำสวยหรูมาก55555 หลังจากนั้นก็ส่งportfolioมา แต่พี่ต๊ะก็ไม่ตอบรับหนู หนูเข้ามาเช็คเมล์ตั้งหลายรอบ ก็แอบนอยส์เบาๆ
เวลา 2เดือนที่ mountain มันเหมือนเป็นแค่ความฝัน หลับตาตื่นมาอีกที ก็อยู่บนรถไฟแล้ว คงไม่มีคำพูดซึ้งให้อะไรมากมาย มีแต่คำสั้นๆ
(คิดถึงนะครับทุกคน)
วันแรกที่จะมาดูแค่แผนที่ไม่ได้มีความเตรียมตัวอะไรมาเลย เดินทางครั้งแรกก็หลง กว่าจะหาบริษัทเจอ แล้วก็เจอนางฟ้ามาโปรด
สตูดิโอออกแบบขนาดกระทัดรัด ที่ทำให้ผมรู้สึกเหมือนมีบ้านที่พิเศษเพิ่มมาอีกหลัง ได้พบกับสิ่งที่เรียกว่า "เพื่อน" ที่ต่างคนต่างมาจากแต่ละสถาบันและก็ได้มารู้จักกันและสนิทกัน
ได้รู้จักกับคำว่า "พี่ " ที่มากกว่าคำว่าพี่ และทั้งสองอย่างนี้ก็ได้มากลายเป็นครอบครัวของผมแบบไม่ทันรู้ตัว
มันจะมีจุดหนึ่งที่คิดว่าตัวเองยังเด็กอยู่เลยนะ แต่ไม่ใช่ว่ะ ความจริงไม่เป็นแบบนั้น
เพราะก่อนจบปีสี่เราต้องหาที่ฝึกงานแทบเป็นแทบตาย เดินสายขายพอร์ต ประดิษฐ์คำพูดเตรียมสัมภาษณ์ แม่งโคตรยากเพราะพูดไม่เก่งเลย ตอนที่เพื่อนในภาคยื่นเรื่องทำจดหมายฝึกงานไปเกือบสิบคนแล้ว ใจนี่แกว่ง ยังไม่ได้ ชีวิตไม่คูลเลยตอนนั้น ..แต่ผ่านมาละ 🙂
“พี่ ผมไม่รู้เป็นไรว่ะ ความรู้สึกแบบ ผมต้องได้มาฝึกงานที่นี่แน่ๆ ใจมันบอกอย่างนั้น ผมว่ามันถูกกำหนดไว้แล้ว” : คำพูดที่ได้บอกกล่าวกับรุ่นพี่ในสาขาคนหนึ่งที่มาฝึกงานที่เมาท์เทน
Mountain Studio เป็น บริษัทที่ออกแบบ Logo หรืองาน Design ที่สวย และยังเป็นบริษัทที่ ทำ WebSite ได้สุดยอด ใส่ใจทุกรายละเอียดของงานต่างๆ ช่วงแรกตอนมาที่ Mountain Studio ก็กลัวๆ เกรงๆ ไม่กล้าทำอะไร ในวันที่มาสัมภาษณ์ นั้นทุกคนทำหน้าตาแบบว่า ดึงๆ ตึงๆ กันไปหมด
ตอนแรกไม่รู้จักที่นี่เลย พอหาที่ฝึกงานก็เจอเมาเทนเห็นเว็บสวยน่าสนใจ แต่พอเจอคำที่เขียนไว้หน้าเว็บก็ไม่กล้าสมัครเลย5555 กลัว
จนผ่านไปสักพัก ก็กดมาเจอที่นี่อีกก็เลยลองยื่นดู จำโมเมนต์นั้นได้เลยว่าส่งไปตอนดึก ครึ่งชั่วโมงถัดมามีเมลตอบกลับว่ารับรู้สึกดีใจมากและก็งงมากด้วย
Mountain บริษัทที่เพื่อนให้ลิงค์เว็บและแนะนำมาว่าสายนี้มึงต้องชอบแน่นนอน แล้วพอเข้าไปดูเว็บก็ชอบจริงๆ จากคนที่ไม่รู้จักกับบริษัทนี้เลย ชื่อก็ไม่เคยได้ยิน ผ่านไปคืนเดียว กลายเป็นคนรู้เยอะขึ้นมาเลย อ่านรีวิวบริษัทของรุ่นพี่เกือบจะทุกคนที่เขียนไว้ หาเฟสหาไอจีจนมีข้อมูลที่อัดแน่น 🙂 พอเข้ามาฝึกจริงๆวันแรกทุกอย่าน่ากลัวมาก กลัวมันทุกสิ่ง
แรกเริ่มเดิมที.. ที่รู้ว่าจะต้องไปฝึกงาน ในใจอ่ะ ไม่มีที่ไหนเลย ไม่รู้จะไปฝึกงานที่ไหน จะไปกับใคร จะฝึกเกี่ยวกับอะไร ไม่รู้เลย.. แล้วก็มีเพื่อนในกลุ่มบอกว่าเออเนี้ยจะส่งไปบริษัท เมาเทน ที่นั้นเขารับเด็กฝึกงานนะ เด็กต่างจังหวัดด้วยน่าสนใจเลยว่าจะลองส่งไป เราก็เลยคิดว่าไปด้วยเอาด้วยๆ ตอนแรกก็ไม่คิดว่าตัวเองจะได้
รู้จัก Mountain ได้ยังไง? ต้องบอกก่อนเลย เว็บไซต์เข้าดีจริงดึงดูดให้ต้องไปต่อ ก่อนจะกรอกใบสมัครทำใจอยู่นานมากเพราะได้โทรเข้ามาถามทางบริษัทว่ายังรับเด็กฝึกงานอยู่ไหม คำตอบที่ได้ทำเอาฝันสลาย “เต็มแล้วค่ะ (การสนทนาเงียบสักพัก555)
พอรู้ว่าต้องออกสหกิจ เลยลองหาที่ฝึกงานใน Google ไปเจอเว็บ Mountain ในเว็บเด็กฝึกงาน เลยเข้ามาดู ส่วนตัวแล้วไม่รู้จักบริษัทนี้มาก่อน แต่พอเข้ามาดูในเว็บ หึ้ยย ยย ยย ย! มันใช่อ่ะ
“Mountain คาร์เฟ่ ศูนย์รวมมุก ตลก และมุกแป๊ก แต่ฮ่า”
เริ่ม….บรรยาย……ออฟฟิตแห่งนี้ เปรียบเสมือน บ้านอีกหลังหนึ่ง ที่ผมได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่ง ของครอบครัว Mountain เราเหมือนเป็นครอบครัวเดียวกันถึงระยะเวลา ของการฝึกงานของผมจะจบลง ความทรงจำผมยังคงตราตรึงไว้สถานที่แห่งนี้เสมอ
ครั้งแรกที่ได้มาพบกันรู้สึกตื่นเต้นมาก เกร็งๆ ทำตัวไม่ถูก รู้สึกกดดัน ทุกอย่างดูเงียบสงบ (โดยเฉพาะหน้าพี่ต๊ะ) ครั้งแรกที่เจอพี่ต๊ะดูเป็นคนน่ากลัว แต่พอได้รู้จักกัน
ต้องบอกก่อนเลยว่าผมเข้าเว็บบริษัทได้ประมาณน่าจะสองถึงสามปีแล้วและกดไลค์เพจบริษัทในเวลาเดียวกัน (ซึ่งนั้นบ่งบอกว่าผมเป็นแฟนพันธ์แท้ของบริษัทหรือป่าว 555)