“พี่ ผมไม่รู้เป็นไรว่ะ ความรู้สึกแบบ ผมต้องได้มาฝึกงานที่นี่แน่ๆ ใจมันบอกอย่างนั้น ผมว่ามันถูกกำหนดไว้แล้ว” : คำพูดที่ได้บอกกล่าวกับรุ่นพี่ในสาขาคนหนึ่งที่มาฝึกงานที่เมาท์เทน
ตอนนั้นช่วงที่กำลังจะเลื่อนชั้นจากชั้นปีที่2เป็นชั้นปีที่3 ซึ่งจะต้องเริ่มหาที่ฝึกงาน ทำพอร์ตต่างๆเพื่อไว้ยื่นกับบริษัท ยอมรับเลยว่าไม่ได้มอง Mountain Studio ไว้ที่แรก ส่งไปหลายที่มากๆ แต่ก็ไม่มีใครรับเข้าสักที่ ก็ยังแปลกใจ ผลงานในพอร์ตก็มีเยอะนะ แต่ทำไมเขาไม่รับเราเลยหว่าาาาาาาาาาา จึงไปปรึกษาพี่คนหนึ่ง พี่เขาก็บอกทำไมไม่ลองส่งไปที่ Mountain Studio ล่ะ ไอ่เราก็กล้าๆกลัวๆ แต่สุดท้ายแล้วก็ตัดสินใจสมัครและส่งพอร์ตเข้าไปที่ Mountain Studio พอพี่เขาตอบรับมาว่าให้ทำเรื่องส่งตัวเข้าไปได้เลย คือตอนนั้นตกใจ และดีใจมากๆที่มีที่ฝึกงานแล้ว 5555 สักระยะก็มีเมล์มาให้แอดไลน์เข้าไปแล้วก็โดนลากเข้ากลุ่มไลน์ วันหนึ่งมีแชทเด้งขึ้นมาว่า เชิญสัมภาษณ์ที่บริษัท คือตอนนั้นรู้สึกตกใจมาก แบบรู้สึกกังวล เพราะคิดว่าพี่เขารับเราแล้วสะอีก ถ้าไปสัมภาษณ์แล้วไม่ผ่าน เราจะไปฝึกงานที่ไหน ประโยคคำถามต่างๆนาๆ โผล่มาในหัวเต็มไปหมด พอถึงวันสัมภาษณ์ตื่นตั้งแต่ตี4เพื่อไปขึ้นรถตู้ปราจีนเข้ากรุงเทพฯ เพื่อให้ไปให้ถึงบริษัทได้ทันเวลาที่พี่ๆเขานัดหมายไว้ พอมาถึงหน้าบริษัท ก็ทำอะไรไม่ถูก เดินเอ๋อๆอยู่หน้าบริษทไม่กล้าที่จะเข้าไปสักพักก็มีคนออกมารับ พอเข้าไปในบริษัท ทุกคนดูหน้าตึงไปหมด คิดในใจ เอาแล้วไง กูโดนแล้วไง ก็คุยบรรยากาศแบบนั้นไปได้สักพัก แล้วทุกคนก็ขำออกมา ปั๊ดโถ่วววว โดนเข้าแล้วจริงๆ 5555 ที่จริงแล้วทุกคนเป็นคนเฮฮาคุยสนุกสนาน เฮฮา เป็นกันเองมากๆ ก็คุยสัมภาษณ์ได้ประมาน 15 นาทีก็เสร็จสิ้น ผมก็ได้เดินทางกลับปราจีน “วันที่เข้ามาสัมภาษณ์นั่นคือความทรงจำแรกที่ Mountain Studio”
การมาฝึกงานวันแรก พอมาถึงหน้าบริษัท ตอนนั้นมาถึงเวลาประมาน 8.55 น. ก็ยังไม่กล้าที่จะเข้าไปข้างในบริษัท เพราะตอนที่มาสัมภาษณ์พี่ๆบอกว่า ให้มา 9.00-9.15 ห้ามก่อนแล้วก็ห้ามมาเรท ก็เลยนั่งรอยู่หน้าบริษัท ก็มีเพื่อนฝึกงานรุ่นเดียวกันมาถึง ระหว่างที่นั่งรอเวลา ก็มีการทักทายกันปกติเพราะก็ได้คุยไลน์กันมาบ้างแล้วก่อนที่จะมาฝึกงาน พอถึงเวลาก็เดินเข้าไปในบริษัท ก็เจอพี่ต๊ะ พี่อร พี่เกียรติ ก็สวัสดีพี่ๆเขา แล้วก็ยืนเอ๋อๆอยู่สักพักนึง มีเพื่อนฝึกงานรุ่นเดียวกันเข้ามาอีกซึ่งเพื่อนกลุ่มนั้นมาฝึกก่อนเราประมาน 4-5 วัน ก็ยืนดูเพื่อนทำไรกันวะ หยิบไม้กวาดไม้ถูทำความสะอาด กันอย่างขยัน ไอ่เราก็ได้แต่ดูเพราะไม่รู้จะเริ่มต้นยังไง พอถึงช่วงที่พี่ต๊ะให้แนะนำตัว ก็รู้สึกค่อนข้างตื่นเต้น ไม่รู้ทำไมถึงตื่นเต้น 55555 พอแนะนำตัวครบทุกคน พี่ตะก่อนสอนเรื่องการใช้ชีวิตที่เมาท์เทนว่าเป็นยังไง หลังจากนั้นก็ได้เวลาทำอาหารกลางวัน จำได้ว่าวันนั้นเพื่อนที่มาก่อนเลือกให้ไปตลาดเป็นเพื่อน ก็ไปซื้อของกันที่ตลาดแล้วกลับมาทำอาหารกลางวันกินกันอย่างสนุกสนาน มีพี่อรพี่เกียรติ เป็นพ่อครัวแม่ครัวใหญ่ เราก็ได้เป็นลูกมือ เพื่อนๆก็ช่วยกันทำอาหารอย่างสนุกสนาน นับเป็นภาพที่ประทับใจมากในการมาฝึกงานวันแรกที่เมาท์เทน
ต่อไปจะขอกล่าวถึงควารู้สึกที่มีต่อทุกๆคนในระหว่างการใช้ชีวิต การฝึกงานที่ Mountain Studio เริ่มที่พี่ๆผู้อวุโสก่อนละกัน(ผมไม่ได้บอกว่าพวกพี่แก่นะ อิอิ)
พี่ต๊ะ : พี่ต๊ะเป็นเจ้าของบริษัท ที่เปรียบเสมือนคนในครอบครัวคนหนึ่ง พี่ต๊ะจะคอยดูแล คอยดุ คอยว่า คอยสอนในเรื่องต่างๆเสมอ ตลอดระยะการฝึกงาน ยอมรับเลยว่าในตอนแรกค่อนข้างกลัวพี่ต๊ะ เพราะพี่ต๊ะชอบหน้านิ่งๆ แล้วพี่ต๊ะเป็นคนหน้าดุ 55555 แต่เอาจริงๆพี่ต๊ะเป็นคนที่เฮฮาสนุกสนานมากๆ เวลาพี่ต๊ะจามทีผมนี่ตื่นเลยจากการง่วงๆ 5555 พี่ต๊ะจะสอนให้เราพัฒนาตัวเองเสมอๆ ก็ขอขอบคุณมากๆนะครับที่รับผมเข้าฝึกงาน ขอบคุณที่สอนผมในทุกๆเรื่องขอบคุณที่ทำให้ผมรู้สึกว่าผมไม่ใช่แค่นักศึกษาฝึกงาน แต่เหมือนกับเป็นคนในครอบครัวของพี่คนหนึ่ง ขอบคุณครับ
พี่อร : พี่อรเป็นผู้หญิงที่เก่งมากกกกก สตรองมากกกก ทำอาหารได้เลิศศศศศศมากครับ ทุกวัตถุดิบในตลาดหรือที่อื่นๆพี่อรสามารถจำราคาและกะปริมาณของต่างๆได้เก่งมากครับ ยอมใจเลยยย เรื่องงานพี่อรก็เก่งมากๆ แบบรู้สึกว่าพี่ต๊ะโชคดีมากๆที่มีพี่อรเป็นคู่ชีวิต พี่อรชอบเล่าเรื่องการใช้ชีวิต เรื่องสยองขวัญ(ซึ่งผมชอบมากๆ55) แต่ผมจะรู้สึกเหมือนมีพลังงานบางอย่างเมื่อมีไลน์เข้าจากพี่อรเวลาพี่อรสั่งงาน พี่อรมีความจริงจังสูง ดูเป็นคนละคนเลย แต่โดยรวมแล้ว พี่อรเปรียบเสมือนพี่สาวที่ใจดีคนหนึ่ง ยังไงก็ขอขอบคุณในทุกๆเรื่องนะครับพี่
พี่เกียรติ : ก่อนมาฝึกงาน มีพี่คนนึงบอกผมว่า เตรียมฟังพี่เกียรติพูดลาวใส่ได้เลย แล้วก็เป็นอย่างนั้นจริงๆ 5555 ตอนแรกๆผก็ไม่ค่อยได้คุยกับพี่เกียรติสักเท่าไหร่ คุยกับพี่เกียรติก็ตอนทำอาหาร พี่เกียรติจะมีวิธีทำที่แปลกจากผม ผมก็ได้จำสูตรของพี่มาเรียบร้อยแล้ว 55555 พี่เกียรติเป็นพี่ที่ห่วงใยน้องทุกๆคน ถามเสมอๆเวลาใครหายไปไหน ขอให้ช่วยอะไรพี่ก็ช่วยเสมอ พี่เกียรติทำเป็นทุกอย่างจริงๆ เป็นผู้ชายที่เก่งมากๆครับ ขอให้หาแฟนได้ไวๆนะครับผม แล้วก็เรื่องแอลฯ เบาๆบ้างนะพี่ น้องเป็นห่วงตับไตไส้พุง
ต่อมาเป็นเพื่อนๆ #MTV801 ละกัน
หญิงกุล : สาวสถาปัตย์พระจอมเกล้าฯลาดกระบัง คือแบบ กุล เธอคืออมนุษย์ คนบ้าอะไร ทำงานอะไรก็ดูสวยไปหมด ยอมใจจริงๆ เวลานึกถึงกุลเราจะนึกถุงสติ๊กเกอร์ไลน์รูปหมีหิ้วหูกระต่าย 55555 ตอนแรกๆเราไม่ค่อยกล้าพูดกับกุลนะ กุลดูเงียบๆ ตอนนั้นเข้าไปคุยกับกุลตอนช่วงแรกๆ กุลหันมาพูดไรใส่เราสักอย่าง เรากลัวกุลเลย เราขอโทษที่เข้าไปคุยตอนกุลกำลังทำงาน 55555 แต่เอาจริงๆกุลเป็นคนน่ารักนะ แต่ด้วยบุคลิก กุลเลยดูดุๆ แต่เราอ่ะ พัฒนาฝีมือขึ้นมาเพราะเรียนรู้เทคนิคหลายๆอย่างจากกุลมาเยอะเลย ยังไงก็ขอบคุณมากเด้อ
หญิงปาล์ม : สาวมัลติมีเดียพระจอมเกล้าฯธนบุรี นี่ก็อีกคน ทำงานอะไรก็ดูดี โดยเฉพาะงาน Typography ชอบฝีมมือเธอมากๆ สวยจริงๆ ปาล์มเป็นคนกินไม่ง่าย 555 แต่ก็เข้าใจ ปาลามจะดูโก๊ะๆมีนๆในบางเวลา แต่เราจะเข้าใจกันดีเมื่อพูดถึงการเรียน ที่เป็นการเรียนที่ค่อนข้างเหมือนกันมากๆ 55555 เวลากลับบ้านคือช่วงเวลาแห่งการเมาส์มอยในระหว่างทางที่ขี่รถไปส่งปาล์ม5555 ยังไงก็ขอบคุณมากเด้อ ที่สอนเทคนิคหลายๆอย่างให้เรา
หญิงบาย : แม่หญิงแห่งศิลปากร สาวสุดติ๊ดซิกาแลต วันที่เจอบายวันแรก บายดูนิ่งๆ ดูเชิดๆ มากๆ จนไม่กล้าที่จะเข้าไปคุยด้วย แต่อยู่ไปอยู่มา บายก็แค่คนบ้าคนหนึ่ง 5555 แบบเวลาถ่ายรูปที่มีบายอยู่ด้วย จะมีแชทเด้ง หรือ คอมเมนท์มาเต็มจริงๆ ฮอตจริงๆเล๊ยยยยยย ในส่วนของการทำงาน บายมีความเป็นบายสูง ดูแล้ลวรู้เลย นี่บายเอง นี่งานบาย จากคนที่ใช้ Ai ไม่เป็น พอมาใกล้จบ แบบเธอล้ำไปไกลมาก ฝีมือพัฒนาไปไกล ดีใจที่ได้ช่วยสอนถึงจะไม่มากก็ตาม บายจงเป็นบายตลอดไป ขอบใจที่มีไรก็พูดตรงๆ เช่นไอ่สัส 55555 หวังว่าจะได้พบกันอีก
หญิงครีม : สาวสายเดฟจากแม่โจ ครีม ครีมดูเป็นคนนิ่งๆ แล้วครีมก็นิ่งจริงๆ แต่! ครีมจ๋า ครีมรู้ตัวไหม ครีมนิ่งได้กวน___ มาก 555 ครีมเป็นคนขำแห้งแต่ตลก 555 ก็แบบไม่ค่อยได้คุยไรกับครีมมากเพราะเราอยู่คนละตึก แต่ว่าก็มีช่วงเวลาที่ได้อยู่ตึกใกล้กัน ก็แกล้งครีมสนุกดี 5555 ก็ไม่รู้ว่าจบจากนี้ไปจะได้เจอครีมอิกไหม ถ้าเจอก็ทักทายมั่งเน้อ อ้อ ละก็อย่าไม่ลืมกินข้าวเย็นล่ะ 5555555
ชายเนส : สิงห์ควันจากแดนอีสาน เนสเป็นคนที่ดูเหมือนคนติดยา แต่ก็เหมือนจริงๆแหละ หลอกๆ 555 เนสเป็นเพื่อนที่ดีคนนึงเลยล่ะ ช่วยเหลือเพื่อนเสมอ มีไรก็คุยกับเนสได้ เรื่อง ผญ ก็อย่าไปสนมาก มีผัวดีกว่า #ได้หรอ 5555 เนสก็ยังคงเป็นเนส ตั้งแต่วันแรกจนวันท้ายๆที่จะจากกัน เนสก็ยังคงเหมือนเดิม แต่อย่าลืมนะเว้ย เนสมึงต้องปรับปรุงสไตร์ รับรองสาวมาเต็ม เวลาทำงานเนสก็ทำงานได้ดีดูจริงจัง ดูตั้งใจทำงานมาก ยังไงกูก็ขอบใจในทุกๆเรื่องที่ช่วยเหลือกันเสมอมา ไว้เจอกันอีก รักมึง จุ๊บๆ
ชายต้า : หนุ่มใต้มาดเข้มแต่จริงๆแล้วเขาคือเด็กที่ชอบงอแงคนหนึ่ง 555 ต้าก็เป็นเพื่อนที่ดี มีความช่วยเหลือเพื่อน เพื่อนให้ช่วยไรก็ช่วย พูดจาไพเราะ “ครับผม” คงติดหูกูไปอีกนาน ฝีมือการทำงานต้า ต้าก็มีการพัฒนาขึ้นมามากจากตอนแรกที่ได้เจอนะ ต้าดูเป็นคนเรียบร้อย แต่จริงๆ มึงไม่ใช่ โอเคนะมรต้าชายผู้อยากออกกำลังกายตลอดเวลา ก็ไม่รู้หรอกว่าจบฝึกงานไปจะได้เจอมึงอีกป่าวอยู่ไกลเหลือเกิน ยังไงก็แวะเวียนทักทายบ้างนะครับมรต้าหนุ่มฮอต รักมึง จุ๊บๆ
ชายกาย : ชายหนุ่มผู้คลั่งใคล้ในงู โอ่ย เราคงอยู่ด้วยกันไม่ได้ 5555 กายเป็นเพื่อนที่ดี ช่วยเหลือเพื่อนดี มักมีคำพูดแปลกๆออกมาจากกาย 555 กายเป็นคนกิน(แดก) ง่าย …. หราาาาาาาาา 55555 กายเป็นบุคคลที่ชอบชวนไปวิจัยแอลฯ กายดูเป็นคนเฟรนรี่กับทุกคนที่ได้เจอ การทำงานกายก็เป็นที่ฝีมือดีคนนึงเลยล่ะ งานจะเป็นกายสไตร์เสมอ ยังไงก็ไว้ไปวิจัยแอลฯด้วยกันอีกเนอะ รักมึง จุ๊บๆ
ต่อมาเป็นเพื่อนๆ #MTV802 ถึงแม้จะเป็นช่วงเวลาสั้นๆ แต่ก็รู้สึกได้ถึงความผูกพันธ์ที่มีให้กัน เริ่ม !
หญิงนิ้ง : สาวร่างเล็ก ที่คำพูดเธอไม่เล็ก เหมือนร่างเธอ 555 นิ้งเป็นเพื่อนที่ดี เฟรนรี่ เฟรนรี่มากๆ มาวันแรกก็กูมึงใส่เลย ชอบๆ 5555 นิ้งเป็นคนที่คล่องตัว ทำอะไรดูดระชับกระเฉง เรื่องงานก็มีพัฒนาการที่ดีนะ พัฒนาต่อๆไปเยอะๆเน่อ ก็ขอบใจที่มีไรก็คุยกัน ถึงจะมีเวลาอยู่ด้วยกันไม่นาน แต่ก็รู้สึกสนิทกับนิ้งระดับนึงเลย ไว้เจอกันอีกนะ
หญิงนัท : สาวร่างสูง ผู้แจกความฉดไฉตลอดเวลา คิดถึงนัท คงต้องเปิดเพลงผีเสื้อราตรีฟัง 5555 นัทเป็นคนที่เฟรนรี่นะ คือระยะเวลาที่อยู่ด้วยกันก็ไม่นาน แต่นัทก็เป็นเพื่อนที่ดีคนนึงเลย พัฒนาการการทำงานของนัท ก็พัฒนาดีนะ สู้ๆเด้อ ไว้เจอกัน
ชายซี(ดี) : หนุ่มเท้าไฟ ซีดีนี่มีเวลาอยู่ด้วยกันน้อยสุดเลย มีเวลาแค่สองอาทิตย์นิดๆ เพราะซีดีป่วย แต่ซีดีเป็นเพื่อนที่ดีนะ เวลาทำอาหารก็ช่วยอย่างเเข็งขัน การทำงานก็ค่อนข้างโอเคเลย ยังไงก็ สู้ๆเด้อ ไว้เจอกัน
…………………………………………………………………………..
สุดท้ายนี้ก็ต้องขอขอบคุณ Mountain Studio มากๆเลยครับ ที่ทำให้เราได้มาเจอกัน ต่างคน ต่างที่มา ต่างวัฒนธรรม ต่างความเป็นอยู่ แต่เราก็สามารถที่จะมาปรับชีวิตให้เข้าหากันได้ ทำให้เราได้มิตรภาพใหม่ๆ ตลอดระยะเวลาสองเดือนที่ได้ฝึกงานที่นี่ มีทั้งทุกข์และสุขปะปนกันไป ได้เรียนรู้การใช้ชีวิตในด้านใหม่ๆ ได้พี่ ได้เพื่อน เพิ่มเข้ามาในชีวิต ที่เรียกกันว่า “ครอบครัว Mountain Studio”
“ การที่เราได้พบเจอกันนั้น มันไม่ใช่เพราะความบังเอิญหรอกครับ แต่เพราะมันถูกกำหนดไว้แล้ว ว่าเราต้องได้เจอกัน ”..
โบ๊ต ณัฐพนธ์ เริงจักร์
แขนงวิชาเทคโนโลยีมัลติมีเดีย
ภาควิชาเทคโนโลยีสารสนเทศ
คณะเทคโนโลยีและการจัดการอุตสาหกรรม
มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ