นิสัยส่วนตัว เป็นคนเข้ากับคนอื่นง่าย อยู่ง่าย กินง่าย อะไรก็ได้ ไม่เรื่องมาก อาบน้ำเร็วแต่งตัวช้า ไม่เกลียดใคร ไม่ด่าใคร ไม่มีศัตรู โลกสวย เข้าใจโลก เข้าใจคนอื่น หน้าตาดีด้วยค่ะ
ขอบคุณบริษัท Mountain Studio ที่รับหนูเข้ามาฝึกงานที่นี่นะคะ ตื่นเต้นมากตอนที่กรอกข้อมูลมา พร้อมเพื่อนอีกคน(แต่เพื่อนไม่ได้) หลังจากที่กรอกข้อมูลมาเพียง1วัน ก็มีเมล์ตอบกลับว่า เจอกันปีใหม่ครับน้อง ดีใจมากไม่ไปสมัครที่ไหนต่อเลยตั้งหน้าตั้งตารอเพื่อจะมาที่นี่ แต่พอรู้ว่าเพื่อนไม่ได้ก็เริ่มลังเลใจเพราะไม่กล้ามาคนเดียว กลัวเหงา ด้วยความที่ชอบบริษัทนี้มาก จึงตัดสินใจมาคนเดียวค่ะ ตอนแรกหนูไม่รู้ว่าบริษัทคัดเลือกนักศึกษาฝึกงานด้วยวิธีไหนแต่ตอนนี้รู้แล้วค่ะ หวังว่าน้องๆรุ่นต่อไปจะเป็นคนดวงดีเหมือนพี่นะ^^
ความรู้สึกที่เข้ามาวันแรก รู้สึกว่าบริษัทนี้เกรียนวะ ตั้งแต่ ที่บอกว่า ห้ามมาก่อน 09:00 (ที่อื่นมีแต่บอกว่าให้มาก่อนเวลาทำงาน) อีกอย่าง Password wifi จร้า กูบอกว่าพาสเวิส ( ครั้งแรกที่ได้ยินนึกว่าด่า ที่ไหนได้อ๋อ พาสเวิส แอบสะดุ้งเล็กน้อย 555+ ) ยอมรับว่าเป็นกังวลกลัวไปหมดเลย (แอบปลอบใจตัวเองว่าเขาคงไม่กล้าฆ่ากูตายหรอก)เพราะโดยพื้นฐานเป็นคนเรียนไม่เก่ง และยังเป็นเด็กต่างจังหวัดอีก ก็มีหลายๆอย่างที่ด้อยไปกว่าคนอื่น อีกอย่างคือมาคนเดียวด้วยไม่รู้จะคุยกับใครไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นยังไง ไปกินข้าวข้างนอกก็ไม่คุยกันเลย จะคุยกันทีไรเหมือนกับต้องพยายามหาอะไรมาคุยเพื่อไม่ให้มันเงียบจนเกินไป แต่พอเวลาผ่านไปอะไรๆมันก็เปลี่ยนตาม (ฮ่าๆๆๆ) เริ่มสนิทกันมากขึ้น คำพูดนี่ก็ไม่รู้ว่าหามาจากไหน ไม่ต้องพยายามหาเรื่องมาพูด เพราะแค่แมวฉี่หน้าบ้านก็พูดกันได้ทั้งวัน โอปป้า(ของฟา)ที่ค่ายมวยก็พูดได้เป็นสัปดาห์เลยละค่ะ บางเรื่องแค่มองหน้ากันแทบจะไม่ต้องพูด สามารถเข้าใจกันได้เลย บางทีก็พูดจนโดนดุ (ฮ่าๆๆๆ) และตอนนี้ก็รู้สึกว่าทางมหาวิทยาลัยให้เวลาน้อยไปในการฝึกงาน^^
ทางด้านการทำงานของบริษัททุกคนตั้งใจทำงานมากค่ะ (ถ้ามีงาน) และงานที่ออกมาก็ดีมากๆ เป็นบริษัทที่น่าชื่นชมและน่ายกย่องมากๆค่ะ^^ จนอายที่จะฟังเพลงดูหนังหรือแชท แรกๆขนาดเวลาว่างงานยังไม่กล้าเล่นเลย แอบส่องสายตาไปดูว่าเพื่อนๆทำอะไร บางคนก็ดูเวปกราฟิก บางคนก็เสพงานกราฟิก (ขยันสุดๆๆวะ ) และตอนนั้นก็ดูตามเพื่อนค่ะ ในช่วงแรกๆก็เสพงานกราฟิกค่ะ มีช่วงนึงพี่ต๊ะบอกว่า แชทได้ถ้าไม่มีงาน หลังจากนั้น ก็แชทเลยค่ะ(เวลาว่างนะคะบอส แหะๆ) ในการทำงานก็มีท้อบ้างจนต้องไปบ่นอยู่หน้าห้องน้ำกับเพื่อนคือมันต่างจากตอนเรียนมหาวิทยาลัยเพราะตอนทำงานส่งอาจารย์ถ้าเหนื่อยท้อหรือขี้เกียจก็ส่งๆไปเลยได้คะแนนเท่าไหร่ก็เอาเท่านั้นแหละ แต่ในโลกความเป็นจริงมันไม่สามารถทำแบบนั้นได้ การทำงานสั่งแบบนั้นต้องได้แบบนี้ มันต้องได้ (ถึงทำไม่ได้แต่งานต้องได้ ต้องได้ ต้องได้ T^T ดราฟหลอดไฟ ต้องได้) ท้อมากถึงขนาดทักไปหาอาจารย์ ปรับทุกข์ให้อาจารย์ฟัง (ฮ่าๆๆ) แต่สุดท้ายก็คือทำได้ (เพราะยังไงมันก็ต้องได้)ในช่วงเดือนแรก พี่ต๊ะบอกว่างานไม่ดีเลยออกแบบไม่สวยไอเดียไม่มี ก็มีเสียใจบ้างค่ะแต่ก็รู้ในความสามารถของตัวเองก็ยอมรับในระดับนึงแต่ก็คิดว่าเราน่าจะทำได้ดีกว่านี้ แอบคิดเหมือนกันนะว่าโลโก้ที่หนูทำลูกค้าจะเลือกบ้าง (ฮาๆๆๆ ก็ถือว่าประสบความสำเร็จนะคะ ดีใจมากกกกกกกกกก… อิฟินิตี้เลยค่ะ )
นโยบายของบริษัท ทำกับข้าวกินเอง เป็นนโยบายที่อ้วนมากค่ะ ในการฝึกงาน 4เดือน น้ำหนักจาก49 ตอนนี้ 51 แล้วค่ะ อยากกินอะไรก็ได้กินแค่คิดก็ได้กินแล้ว สปาเก็ตตี้ก็มา มักโรนีก็มา อาหารไทย อาหารเทศ ทำได้หมดจร้า แต่ข้อเสียคือบ่าย2เป็นเวลากินข้าว แต่หนูหิวตั้งแต่11โมงแล้วค่ะ(T^T) ในเรื่องของปาร์ตี้ของบริษัทเรานั้นไม่ต้องพูดถึงค่ะ วันเกิด วันหยุด วันศุกร์ วันเกิดอยากกิน (ฮาๆๆ ) เรามีปาร์ตี้ตลอด และที่สำคัญ สำหรับเมาเทนแล้ว ไม่มีคำว่าทำพออิ่ม แค่นี้ก็พอ มีแต่คำว่า ทำไงจะกินให้หมด (เยอะมากกกกกกกกก…) เห็นแล้วถึงกับท้อ ท้อเรื่องงานยังไม่พอยังต้องมาท้อเรื่องอาหารอีก (แต่สุดท้ายก็หมดนะคะ สรุปมันคงจะพอดี ฮาๆๆ)
สิ่งที่ได้จากเมาเทน คือ การปรับตัวค่ะ การปรับตัวเป็นเรื่องสำคัญของการอยู่รวมกันเป็นกลุ่มเพราะต่างคนต่างมาจากที่อื่น สังคม วัฒนธรรม สิ่งแวดล้อม และศาสนา หากยอมรับและปรับตัวได้จะรู้ว่ารอบตัวมีแต่ความสุข สนุกสนาน และความเป็นเพื่อน พี่น้องกัน ได้เรียนรู้สูตรการทำอาหารเวลากลับบ้านไปจะได้ไปทำกับข้าวให้ที่บ้านทาน (ขอบคุณค่ะที่ชมว่าน้ำพริกอร่อย หนูไม่มีสูตรใดๆ ทำเดาๆเลยค่ะ ฮาๆๆ ) สูตรการชงน้ำที่อร่อย ฝึกจบไปสามารถเปิดร้านขายน้ำและร้านอาหารได้เลยค่ะ ด้านการทำงานได้เรียนรู้ทักษะการทำงานที่ดี เทคนิคต่างๆที่ใช้ในโปรแกรมที่ไม่เคยรู้มาก่อน และที่สำคัญคือได้มิตรภาพที่ดี ได้เพื่อน ได้พี่ ได้ครอบครัวที่อบอุ่นค่ะ
สำหรับทุกคน
พี่ต๊ะ เป็นคนอ้วนที่น่ารัก มีความน่ากลัว (ภายนอกนะคะ) น่าเกรงขาม แต่จริงๆแล้ว พี่ต๊ะเป็นคนตลก จิตใจดีมีน้ำใจเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ อารมณ์ขัน เวลาจริงจังก็ดูน่ากลัว เวลาตลกก็ตลกจนลืมไปเลยว่าเคยน่ากลัว เวลาเล่าถึงเหตุการณ์อะไรหนูก็มักจะคิดว่าหนูอยู่ในเหตุการณ์นั้นด้วยเพราะพี่ต๊ะพูดได้อารมณ์มาก ทั้งสีหน้าท่าทาง บางทีเรื่องที่พี่ต๊ะเล่ามันก็ไม่ตลกเท่า ท่าทางที่พี่ต๊ะเล่าในตอนนั้น (ฮ่าๆๆๆๆ) ขอบคุณพี่ต๊ะที่ให้โอกาสหนูมาฝึกงานที่นี่นะคะ หนูจะไม่ลืมที่นี่เลยค่ะ (ว่าหนูเคยกินเกี๊ยวดิบกับแนน) ขอให้พี่ต๊ะดูแลสุขภาพนะคะจะได้อยู่เป็นร่มโพธิ์ร่มไทรให้รุ่นน้องต่อๆไป (สาธุ ^^ )
พี่อร เป็นผู้หญิงที่เก่งและสวยมากๆ ทำงาน ทำกับข้าว ทำความสะอาดบ้าน ทำงานบ้าน ซ่อมบ้าน ไปซื้อของ ไปคุยงาน และ ดูแลพี่ต๊ะ พี่อรเหมือนเป็นทุกอย่างๆของบ้านหลังนี้ ถ้าไม่มีพี่อรพี่ต๊ะจะต้องลำบากแน่ๆเลยค่ะ (ตรงไปป่าวคะ ฮ่าๆๆ #ทีมอร ) ตั้งแต่ฝึกงานมายังไม่เห็นข้อเสียพี่อรเลยค่ะ(นมเล็กไม่ใช่ข้อเสียค่ะ^^)
พี่เกียรติ เป็นผู้ชายที่มีโลกส่วนตัวสูงมากกก… และพูดไม่ค่อยรู้เรื่องอาจเป็นเพราะทำงานหนักเกินไป(ออกไปเจอโลกกว้างบ้างนะคะ^^) เวลาพูดถึงเรื่องอะไรพี่เกียรติจะมีความจริงจังกว่าคนอื่น ไม่รู้ว่าอัถรสรึป่าวนะคะ ถ้าที่เมาเทนไม่มีพี่เกียรติ บริษัทก็คงจะเงียบเหงา ก็จะไม่มีคู่จิ้นกับสาวๆ ^^ และหนูก็ไม่รู้จะพูดอีสานบ้านเฮากับใคร ขอบคุณที่เกียรติที่พาหาหอนะคะ
มุข เป็นคนเก่งสามารถช่วยเหลือเพื่อนได้ตลอดเวลา และมีความฮาภายในตัว (เกรียน) หลังจากที่มุขฝึกจบออกไปพวกเราก็คิดถึงนาง แล้ววันที่มุขเข้ามาเราก็ตกใจกับสไตล์นาง ผมทอง เกงแดง เสื้อลายสก็อต(พี่ต๊ะชมว่าเหมือนเมียคนให้เช่าห่วงยาง) นางดูเปลี่ยนไปมากจากตอนที่ฝึกงาน ว๊าวววววว นางเป็นคนที่มาพร้อมกับเสียงหัวเราะ ตอนแรกก็นึกว่าจะดูนิ่งๆเรียบร้อยๆ นี่แหละที่เขาบอกว่า มองคนอย่ามองที่ภายนอกให้มองลึกลงไปในจิตใจ เนอะมุข^^
ฟา เจ้าของเทือกเขา เป็นคนเส้นตื้นจัด พูดอะไรก็หัวเราะ แล้วก็ชอบตีเพื่อนข้างๆ กลบเกลื่อน ชอบพูดเล่นพูดจริงผสมกันไปไม่รู้อันไหนจริงไม่จริง เคยบอกว่าอาแบเป็นคนเหนือพอพูดจบ ก็ถามเพื่อนว่า มึงเชื่อกูหรอ ?? อ่าว แล้วตกลงมึงพูดจริงป่าว ฟาก็หัวเราะ ปล่อยให้เพือนๆ งง ตามๆกันไป ฟาชอบคิดในสิ่งที่คนอื่นคิดไม่ได้ เวลาพูดชอบจิกตาจิกปาก แล้วลงท้ายว่า ตบ มั๊ย ? (นักเลงก็มาจร้า 5555) ฟาเป็นคนทำงานเก่ง ทำงานสวย ขัดกับหน้าตาเล็ดน้อย(สวยไกล้เคียงกันแต่งานสวยกว่า ) สามารถพึ่งพาอาศัยได้ เอื้อเฟื้อขนมต่อเพื่อนๆเสมอ และเป็นคนเดียวที่ขับมอไซได้(สงสารนางแดดแค่ไหนก็ต้องไป)และนางก็ต้องไปตลาดทุกวัน ขอบคุณนะฟาจัง เค้าคงคิดถึงแกมากๆๆวะ
นานี เป็นคนที่ขำยากมากแต่เวลาขำจะชอบขำเสียงสูงแหลมๆ แล้วก็หยุดไป เวลาพูด ร.เรือ นางมาเต็มมาก พูดชัดมากจนบางทีเราก็แอบพูดตามนะ เพราะมันมีอิทธิพลต่อเรา ใครบอกว่านานีเป็นคนเรียบร้อย ป่าวเลยยยยย นานีแค่พูดน้อยและทำงานเก่ง อย่างอื่นนานีก็เหมือนเพื่อนคนอื่นๆ นานีมีฉายาว่านานีสายบุฟเฟ่ มีร้านบุฟเฟ่ที่ไหนนางก็จะตามไปกินจร้า ไกลแค่ไหนก็ไป แต่ไม่ชอบกินของหวาน แต่ก็กินได้ (ถ้าเพื่อนพากิน) นานีเป็นคนแปลกที่ชอบใส่แว่นไว้นอกผ้า ซึ่งเค้าไม่เคยเห็นมาก่อนจึงตัดสินใจถามจึงได้คำตอบว่ามันเจ็บหู ผูกผ้าแน่นเกินไปมันเลยบีบแว่น (หรือจริงๆแล้วนานีหูกางมากจึงต้องผูกผ้าแน่นๆเพื่อปกปิด) นานีเป็นอีกคนที่เพื่อนๆพยายามเสาะหาอาแบ แต่ก็ไม่เจอ(ไอ้ฟาก็พูดมั่วไปเรื่อยไม่รุ้อันไหนจริงไม่จริง) ได้ยินมาว่านางฮอตมากๆ มีคนมาจีบเยอะ
มิ้ม ทำงานเก่งมีทักษะในการทำงาน เป็นคนที่สามารถเป็นเพื่อนได้ในมหาวิทยาลัย อยู่ด้วยกันทีไรความฮาจะบังเกิด มันมีเคมีที่ตรงกันหลายเรื่อง สามารถปรึกษาปัญหาชีวิตได้ เช่น พ่อไม่โอนตังมาทำไงดี เป็นต้น มิ้มเป็นผู้หญิงเท่ ตั้งแต่วันแรกที่เข้ามาก็รู้สึกว่าเออคนนี้เท่ดีวะ ก็มีแอบมอง(ชอบมองคนสวย) แต่พอรู้จักจริงๆ ก็อยากนั่งหันหลังให้เวลาทำงาน ชอบหัวเราะคนเดียวเหมือนเวลาดูคลิปตลกก็จะหัวเราะแบบมีเสียงออกมา พอจะหลับ ก็หลับจนเกือบตกเก้าอี้ ในความเท่ก็ยังมีความบ้าแอบซ่อนอยู่ มิ้มเป็นคนตลก รับมุขกันได้ตลอดเวลาเล่นมุขอะไรไปรับรองไม่แป๊กแน่นอน เรายังจะต้องได้เจอกันอีกเรื่อยๆนะ ลลดา^^
แนน สวัสดีพระมเหสีค่ะ ความแรดบ่งบอกถึงความเป็นตัวแม่ แนนเป็นคนที่แต่งภาพสวย รู้จักมุมตัวเอง และเป็นคนสะดือสวย สามารถเป็นเพื่อนได้ในมหาวิทยาลัยเช่นกันกับมิ้ม ทำงานเก่งเรียนเขียนโปรแกรมแต่ฝึกกราฟิก ทำได้ขนาดนี้ถือว่าเก่งมากๆๆ แนนเป็นคนที่มีความสุขกับการกินฮันนี่โทส และเกี๊ยวดิบมากๆ นางจะกินแบบไม่สนใจใครนอกจากจานที่วางอยู่ข้างหน้า แรกๆ ก็คิดว่าแนนจะหยิ่งเพราะดูจากเฟสก็สวย (ตัวจริงก็สวยนะ) แต่พอรู้จักสนิทกันก็เป็นคนพูดเก่ง ตลก รับมุขได้ตลอดเช่นกันกับมิ้ม ขอบคุณเมาเทนที่ทำให้เราได้เจอกัน^^
น้องเจน เป็นน้องฝึกงานที่เข้ามาใหม่แต่รุ่นเดียวกัน น้องเข้ามาเพื่อนแบ่งเบาภาระของพี่ฟา เหมือนสวรรค์ส่งมาเพื่อช่วยฟาโดยเฉพาะ ตั้งแต่น้องเจนเข้ามา พี่ก็ไม่ต้องหุงข้าว พี่ฟาก็ไม่ต้องไปตลาด^^ น้องเจนเป็นน้องที่น่ารักเข้ากับพวกพี่ได้เร็ว พูดเรื่องอะไรก็สามารถคุยด้วยกันได้ แรกๆทีน้องเจนมาส่งเอกสารที่บริษัท พี่ก็ไม่ค่อยชอบหรอกเพราะดูจะแรงๆ ใส่กางเกงขาสั้นมาเลย(นางเฟี้ยวมาก) แต่พอเอาเข้าจริงๆ ก็เป็นเด็กที่น่ารักนะ ทำงานเก่ง งานออกมาก็ดี ยินดีที่ได้รู้จักจ่ะ
น้องปั๋น เด็กชายปั๋น เป็นเด็กสุดในรุ่นฝึกงานและเป็นผู้ชายคนเดียว (มีผู้ชายหลงเข้ามาให้สมประกอบหน่อยก็ไม่ได้) เป็นเด็กที่อ่อนต่อโลก ไร้เดียงสาไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรเลย ขับรถมอไซก็ไม่เป็น ทำกับข้าวก็ไม่เป็น แต่ชอบกินเปลือกมะนาว เวลาทำกับข้าวในครัว มะนาวที่ใช้แล้วนางจะขอมากิน ถือว่าเป็นการใช้มะนาวที่คุ้มค่ามากค่ะ ^^
แก้มบุ๋ม เทพสุดา วงศ์ภักดี
สาขาเทคโนโลยีมัลติมีเดียและแอนิเมชัน คณะเทคโนโลยีสารสนเทศ
มหาวิทยาลัยราชภัฎมหาสารคาม