สวัสดีค่ะ ชื่อนางสาวกัณฐ์กมล พูลสมบัติ (พาลอย) รุ่น #mjr301 จากมหาวิทยาลัยราชภัฏพระนคร (บางเขน) สาขาออกแบบนิเทศศิลป์ คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ ที่เลือกมาฝึกงานที่ Mountain Studio เพราะว่าได้คำแนะนำจากรุ่นพี่และเป็นรุ่นพี่สายรหัส (พี่เอลฟ์) ยิ่งทำให้มั่นใจเลยค่ะว่าที่นี่ต้องเวิร์คสุดๆ แต่ก็ถามแกแล้วถามแกอีก555+ แล้วก็สมัครด้วยตัวเองรอบหนึ่ง (จำหนูได้ใช่มั้ยคะ555) ก็ดันมีโรคโควิท 19 ระบาดพอดี เลยอดมาฝึกงาน แต่ก็ยังไม่คิดที่จะไปสมัครที่อื่นค่ะ เพราะเลือกแล้วว่าอยากทำที่นี่ (คือมั่นใจแล้ว) ในใจคิดว่าเขาจะรับมั้ย เขาจะจำเราได้มั้ยเนี่ย กังวลมากเพราะไม่ได้สมัครที่อื่นรองรับไว้เลยค่ะ (ก็เราจะเอาที่นี๊555) ฉันรออีเมล์ตอบกลับทุกวันเลย พอเห็นมีอีเมล์จากที่นี่เด้งมาก็โล่งอกสุดๆ
แล้วก็ได้มาถึงวันที่ได้มาทำงานวันแรกก็ตื่นตั้งแต่ 6 โมงเช้าเลยจ้า555(กล้วสาย) ลนลานสุดๆเพราะต้องหัดนั่งรถไฟฟ้าไปเอง คือลองหัดนั่งมาทำงานเองครั้งแรก ก็ไม่คาดคิดว่าจะนั่งมาลงถูกที่จ้า แล้วก็ไม่คิดว่าจะถึงไวขนาดนี้ ออก 6โมงครึ่งถึง 7.40 กว่าๆ จำได้เลยว่า ไปนั่งตัวเปื่อยที่สนามเด็กเล่นแถวหมู่บ้าน เพราะออฟฟิศให้เข้างาน 9.00 ก็นั่นแหละค่ะ5555 ดีนะที่มีแมวในหมู่บ้านมาอยู่เป็นเพื่อนนน
พอได้เวลาเข้างานก็เดินมาวนเวียนหน้าหมู่บ้าน (คิดในใจเอ๊ะกุมาถูกวันมั้ยนะ หรือออฟฟิศปิด หรือไม่ได้ทำที่นี่แต่ต้องไปอีกออฟฟิศ5555คิดเยอะแยะไปหมด แล้วก็ซื้อกาแฟหน้าบ้านดูดคั่นเวลา5555555) จนเจอเพื่อนอีกคนที่มาฝึกวันแรกเหมือนกันมาพอดี จึงลองเปิดประตูเข้ามา นั่นแหล่ะค่ะเป็นจุดเริ่มต้น…
พี่ต๊ะ : ตั้งแต่เจอพี่ต๊ะวันแรก พี่เขาก็ยังคงบุคลิกนิ่งๆ ขรึมๆ เหมือนตอนวันแรกที่เคยเจอพี่ต๊ะเลย (ตอนที่ได้มาสมัครด้วยตัวเองครั้งนั้นเลยค่ะคือ ขรึมมากๆ) ทำให้ต้องนั่งเกร็งไปพักใหญ่ ดีนะที่มีเพื่อนอีกคนนั่งเกร็งด้วย5555 ไม่กล้าจะหายใจดังๆไม่กล้าคุยกับเพื่อน ต้องส่งสายตาคุยกัน ในใจกลัวพี่ต้ะแกบ่นนั่นแหละค่ะ5555 พอได้อยู่ไปนานๆเข้าเกือบจะได้เดือนฟ่าๆและ ก็รู้เลยว่าพี่ต๊ะบุคลิกตรงข้ามกับที่เราเจอครั้งแรกม๊ากก (มีใครไม่รู้กินพี่ต๊ะเข้าไปหน่ะ) พอจะมีเรื่องให้ขำ ก็พาเราขำจนหลุดความเป็นตัวเองออกมาให้ทุกคนเห็นหมดเลย เขินจุงงง (ขำแตก) นอกจากเรื่องเฮฮาแล้ว มีเรื่องนึงคือ พี่ต๊ะเวลางานแกก็คือเวลางาน (แบบเวลางานจริงๆ) มีดุบ้างบ่นบ้าง แต่เราก็เข้าใจพี่ต๊ะนะคะไม่ซีเรียสอะไร (ความเป็นบอสที่ต้องรับทุกอย่างของงานและออฟฟิศ สู้ๆนะค้า) เราก็พยายามปรับปรุงตามที่พี่ต๊ะบอก ถ้าพูดถึงนอกเวลางานความเป็นกันเองไม่ต้องพู้ดดด พี่ต๊ะให้ใจสุดๆไปเลย สุดแบบสุดจริงๆ คือทุกคนต้องได้มาสัมผัสด้วยตนเองจริงๆค่ะ สรุปก็คือ พี่ต๊ะเป็นคนที่คอยซัพพอตนักศึกษาฝึกงานทุกคน มีความจริงใจมากๆ มีมุกให้ตบนี่ที่หนึ่งเลยค่ะ5555 พอมีใครเป็นอะไรแกก็คอยให้เพื่อนถามสารทุกข์ดิบสุก จนทำให้เราไม่ต้องมาคอยนั่งเกร็งเหมือนวันแรกๆอีกเลย สุดท้ายขอขอบคุณมากๆนะคะที่รับหนูเข้ามาฝึกงานที่นี่ ขอบคุณมากมายจริงๆค่ะ
พี่อร : ผู้ที่เป็นทุกอย่างให้ Mountain ซัพพอตยิ่งกว่าสิ่งอื่นใด อย่าให้มีการจัดงานเลี้ยง งานวันเกิด คือ เต็มที่ให้กับเด็กฝึกงานทุกคน เคยได้ไปเดินห้างซื้อของกับพี่อรอยู่ครั้งนึง อยากกินอะไรไปหยิบ หยิบๆมาเลย ขอให้บอกพี่อรเลย ที่สุดของที่สุดเลยค่ะ พี่อรเป็นผู้หญิงที่เก่งมากๆ (ภูมิใจแทนพี่ต๊ะมากๆเลยค่า><) ทำอาหารก็อร่อยและหนูก็เป็นลูกมือที่ดีและเป็นนักชิมที่ดีให้ด้วย5555 อยู่ที่นี่คือน้ำหนักขึ้นแบบไม่ต้องสงสัยเลยค่ะ สุดท้ายขอบคุณมากๆนะคะพี่อรที่คอยดูแลอาหารการกินจนอุดมสมบูรณ์ขนาดนี้ เรื่องงานหนูให้รองลงมาก่อนนะ5555 เรื่องการกินยกให้เป็น The Best รักนะคะอิๆ
พี่เบนซ์ : พี่เบนซ์เป็นผู้ชายที่ดูนิ่งๆ เรียบร้อยทุกอิริยาบถ555 (เรื่องจริง) จะรอให้คุยกับเราก่อนนี่เรื่องยาก ต้องชวนพี่แกคุยก่อนถึงจะต่อได้ยาวๆ (เว้นตอนพี่แกเมานะ55555) งานในบ้าน งานในคอมพี่เบนซ์ก็คอยบอกคอยสอนจนบางทีเราก็คิดว่ากวนเขาบ่อยเกินไปหรือป่าว5555 เรื่องการทำงานพี่เบนซ์ขยันมากจริงๆ ถึงจะอยู่ด้วยกันไม่ได้ครบวันเวลาที่หนูได้มาฝึกงาน เพราะพี่เบนซ์ก็ต้องไปทำหน้าที่ของตัวเองต่อไป สุดท้ายก็ขอบคุณนะคะที่ช่วยสอนงานทุกๆอย่างเลย โชคดีมีชัยนะค้า
น้องฌาดาดาดา : น้องดาเป็นเด็กเลี้ยงง่ายมากๆ คือเลี้ยงง่ายเกินไปจริงๆค่ะ (สำหรับเรานะ555555) เชื่อฟังทุกอย่าง เป็นเด็กที่ฉลาดสุดๆ หลงรักเลย เข้ามาออฟฟิศ อย่างแรกคือขนมที่ซื้อมาจะลืมน้องไม่ได้เลยทุกวันนี้5555 ต้องติดมือมาบ่อยมาก ขนมหวานบ้าง ลูกอมบ้าง ไม่เคยที่จะลืมเอามาเผื่อน้องเลย ( แล้วน้องดาก็ทำให้พี่ก็อู้งานมานั่งกินขนมหน้าคอมด้วยกันตลอด><) แต่วันไหนน้องดาไม่อยู่ออฟฟิศก็รู้สึกเงียบเหงาไปเลย จบไปคงคิดถึงเด็กน้อยคนนี้แน่เลย แง้งงงง
มิ้ว : สวัสดีเพื่อนสาวเหนือ เจ้าแม่แห่งวงการแฟชั่น เราก็ได้เจอกันแค่แปปเดียวเองเนอะ แต่เวลาสั้นๆก็มีความสุขมากเลย ได้เที่ยวด้วยกันด้วย55555 ตั้งแต่วันแรกที่เจอมิ้ว เราถูกชะตามาก ดีใจที่มีเพื่อนสาวมานั่งเป็นเพื่อนเวลาทำงาน มีคนคอยให้คำปรึกษา เลิกงานก็มีเพื่อนเดินกลับด้วยกัน พอรู้ว่าจะต้องจากกัน เกือบร้องไห้นะตอนนั้น มันไวเกินไป แง้~~ สุดท้ายก็ขอให้มิ้วโชคดี มีโอกาสเราคงได้พบกันน้า คิดเติ๋งเน้อ
ดิส : สวัสดีเพื่อนพะเยา… เพื่อนคนนี้ก็มึนตั้งแต่วันแรก5555 มาแกะกินขนมปังสอดใส้ของเราเฉยเลยอะ55555555 จะผูกมิตรแบบนี้ก็ไม่บอก555 ขอบคุณที่คอยสอนงาน รบกวนดิสจนวันแรกและวันสุดท้ายของฝึกงานเลย เป็นเพื่อนไปตลาด เป็นเพื่อนคอยบอกงานให้ทำ เป็นเพื่อนคอยให้ยืมตังตอนที่ยังไม่ได้กดมา น่ารักมาก555 กล้ามาก เก่งมาก ขอบใจมากกก (คอแข็งม้ากก)
โจ้ : สวัสดีเพื่อนพะเยา… เพื่อนคนนี้ก็ทำเราเกร็งอยู่เหมือนกัน ดูเป็นคนไม่พูดเลย พูดน้อยมาก เงียบๆ จำได้เลยตอนวันไปตลาดครั้งแรกโจ้แทบไม่พูด ไม่พูดเลย แต่แค่อือ ออ มาเราก็สบายใจและ555 คือต้องชวนคุยก่อน5555 พอนานๆเข้า โจ้ก็ไม่ได้เป็นแบบนั้น โจ้เป็นคนเผาเพื่อน โจ้รักเพื่อนมากกก ปล่อยความลับเพื่อนเก่งงง โจ้เป็นคนดีที่สุดตั้งแต่ที่ได้รู้จักมา5555555 ขอบคุณที่เป็นเพื่อนกันไปตลาดและเป็นเพื่อนช่วยล้างจานนะโจโจ้ซังงงง (คอแข็ง…รึป่าว555)
ไผ่ : สวัสดีเพื่อนพะเยา…ป๊าไผ่ของน้องดา เป็นคนพูดจามีหลักการ (บางทีก็ฟังไม่ค่อยรู้เรื่อง555พูดซ้าซ้าหน่อย) เพื่อนคนนี้ก็คอยสอนงานตลอดเหมือนกัน ขอบคุณมากๆ
ละพวกเราก็ไม่รู้เป็นอะไรกัน เวลานั่งแตะโดนขาก็ไม่ได้5555 จิ๊จ๊ะกันอยู่นั่นแหละ ทั้งวัน55555 ก็ไม่มีอะไรมาก ขอบคุณที่เป็นเพื่อนที่ดีกันมาตลอดฝึกงานนะจ้ะ (คออ่อนนนน)
โอปอล : สวัสดีเพื่อนพะเยา…เพื่อนสาว เอ้ยเพื่อนชายคนนี้ ก็ไม่มีอะไรมากหรอกที่จะบอก โอปเป็นคนดี เป็นคนหล่อออ เพอร์เฟคสุดๆ (ล้อเล่นนหน่ะ) เพื่อนคนนี้รักสุขภาพ เข้าฟิตเนตทุกวัน ล่ำบึกกก(และโสดดดนะทุกคน) พูดมาก ร้องเพลงเก่ง (แต่เพี่ยน) มุกก็แป้ก ละก็ชอบเล่นมุกคนเดียว555 แต่โอปก็พาเส้นตื้นทุกวันจริงๆ ขำจะบ้าตายได้อะ5555 แต่เรื่องดีๆของโอปปคือทำอาหารเก่งนะ ส่วนในเรื่องงานก็ขอบคุณนะที่คอยบอกคอยสอนงานมาตลอดเช่นกัน อย่ามาแอบร้องไห้คิดถึงเรานะโอปป จุ้บๆ55555 (เลิกเมาละอ้วกไม่เป็นที่ได้ละ5555)
หลังจากนี้ก็ขอขอบคุณ mountain studio ขอบคุณพี่ต๊ะ และพี่อร น้องดา ที่ใส่ใจกัน ดูแลหนูมาตลอดระยะเวลาที่ฝึกงานนะคะ ขอบคุณเพื่อนๆจากพะเยาทุกๆคนเลย ที่มอบสิ่งดีๆและมิตรภาพดีๆให้กัน รู้สึกสนุก รู้สึกอิ่ม รู้สึกอ้วนขึ้น555 และมีความสุขมากๆที่ได้มาฝึกงานที่แห่งนี้ อารมณ์เหมือนได้อยู่บ้านมากกว่าอีก55555 ไหนจะทำกับข้าวด้วยกัน นั่งทานข้าวด้วยกันทุกวัน ยังออกไปกินร้านอาหารด้วยกันอีก มันอบอุ่นเหมือนเป็นครอบครัวมาตลอด 3 เดือนที่ผ่านมานี้ และได้นั่งหัวเราะกันลั่นบ้านทุกวันจริงๆ555555555
…แต่ทำไมยังรู้สึกว่าเวลามันเดินเร็วเกินไป อะไรๆก็ผ่านไปเร็วมากๆ ได้เจอกันก็น้อย อาจเพราะช่วงที่มีโรคระบาดเข้ามา ทำให้พวกเราต้องพักฝึกงานอยู่หอด้วยแหละ เลยไม่ได้พบปะกันเลย สุดท้ายสถานที่แห่งนี้ก็มีความทรงจำที่น่าจดจำหลายๆอย่างเช่นกัน อยากจะขอบคุณมหาลัยที่ให้เราเลือกสถานที่ฝึกงานที่เราชอบแบบนี้ และทำให้เราได้มาพบกันค่ะ มีโอกาสจะแวะมาเยี่ยมเยือนบ้าน mountain หลังนี้อีกนะคะ…
“ที่นี่ไม่ใช่แค่ออฟฟิศฝึกงาน แต่มันคือบ้านและครอบครัวที่อบอุ่น”