สวัสดีค่ะ ชื่อนางสาวลัณญนา จันทร์สว่าง ชื่อเล่น เอิท มากจากคณะเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร เอกเว็บและสื่อโต้ตอบ มหาวิทยาลัยศิลปากร จริงๆรู้จักบริษัทนี้เพราะว่าเห็นพรีเซ้นของเพื่อนว่าจะส่งฝึกงานที่นี่ เราเลยไปลองหาดูก็เลยส่งพอร์ตมา รอนานไปหน่อยได้ที่อื่นไปก่อนและไปสัมภาษณ์คุยทุกอย่างเหลือส่งเอกสารอย่างเดียวซึ่งตอนที่เมาเท้นโทรมาบอกว่าเราได้ที่นี่ก็เศร้าไปเลย รู้สึกหน่วงมากเสียดายที่ปฏิเสธเมาเทนไป แต่ไม่รู้พรหมลิขิตหรือผีผลัก สุดท้ายก็มาลงเอยที่นี่ รู้สึกว่าที่นี่คือที่ของเราตั้งแต่ตอนเข้ามาส่งเอกสาร ทุกอย่างมันไม่เหมือนที่ทำงาน มันเหมือนครอบครัว พี่ต๊ะสัมภาษณ์เราก็จะมีแบคคอยขำ คอยยิงมุกอยู่ตลอด ตอนสัมเสร็จรู้สึกดีจนลืมหยิบเอกสารกลับมาจนต้องแวะกลับไปเอาอีกรอบ เป็นอะไรที่รู้สึกดีมากๆ และก็รอคอยเวลาที่จะได้มาฝึกงาน พอได้มาฝึกงานก็รู้สึกว้าวขึ้นไปอีก อาทิตย์ที่สองที่เข้ามาฝึกงานก็ได้ปูกระเบื้องข้างบนบ้านซึ่งเป็นประสบการณ์ใหม่ ใหม่มากๆ ได้ทำหลายๆอย่าง ทาสี เช็ดคราบยาแนว ที่กัดมือจนมือลอก คือได้ทำหลายๆอย่างที่คิดว่าชีวิตนี้ไม่น่าจะได้ทำ อีกเรื่องที่ตื่นเต้นที่นี่คือสักกันในบริษัท เราก็นั่งดูแบบชิลเลย พี่ที่โดนสักก็เกร็งรอ ช่างสักก็ไม่ใช่ใครอาร์ตเอง ซึ่งเป็นอะไรที่ว้าวมากๆ อีกเรื่องที่เรากลุ้มใจในบริษัทคือเราไม่ชอบเด็กเลย แต่พอเข้ามาได้ใกล้ชิดกับน้องฌาดา เรากลับเข้าใจเด็กมากขึ้น เราไม่เคยรำคาญเวลาเด็กที่อยู่ข้างนอกแล้วโวยวายเลย มันหลายอย่างจริงๆที่ได้จากบริษัทนี้
พี่เต้ย
พี่เต้ยเป็นพี่ที่มาจากจังหวัดเดียวกัน ครั้งแรกที่รู้ตื่นเต้นมากๆ พี่เต้ยเป็นคนที่คุยสนุกมาก ถึงแม้จะขี้เหงามากๆ ช่วงที่ฝึกงานตอนแรก พี่เต้ยชวนเล่นเกมส์ทุกวัน พี่เต้ยเป็นคนที่ทำงานเก่งมากๆ งานดีสุดๆ พี่เต้ยเป็นคนเหมาะที่จะอยู่เฉยๆมากกว่าพูด ถ้าพูดพี่เต้ยก็จะพูดไม่หยุด จนทุกคนจับแยกไม่ให้นั่งด้วยกัน คุยกันจนคอแห้ง ชอบที่พี่เต้ยใช้ชีวิตแบบเดียวกันทำให้สามารถคุยกันได้ทั้งวัน ตอนแรกก็เสียดายที่เข้ามาฝึกแล้วพี่เต้ยอยู่อีกสามวันก็จะจบฝึกงาน คิดว่าจะไม่ได้เจอกันแต่สุดท้ายเจอกันบ่อยเหมือนพี่เต้ยยังฝึกงานอยู่ทุกวัน
พี่เอลฟ์
พี่เอลฟ์หรืออีกชื่อคือมิเกล วันแรกพี่เอลฟ์แกล้งโดยการแกล้งเป็นลูกครึ่ง ซึ่งเราก็เชื่อแต่ไม่มีใครคุยด้วยพี่เอลฟ์เลยเลิกแกล้งเพราะว่าเหงา55555 พี่เอลฟ์ค่อนข้างมีความสามารถที่หลากหลายเช่นการเลียนแบบหนัง พากษ์เสียงตามหนังไทย และภาพที่จะเห็นทุกวันคือพี่เอลฟ์เลี้ยงน้อง ซึ่งเป็นอะไรที่ตื่นเต้นมากเพราะว่าเป็นอีกมุมหนึ่งที่ไม่เคยเห็นมาก่อน พี่เอลฟ์มักจะคอยฟังเรื่อยงเล่าจากน้องเสมอ แต่พี่เอลฟ์ต้องทำอะไรทีละอย่างเช่นถ้าพี่เอลฟ์ทำงานคือจะมีสมาธิมาก และฟังเพลงดังมากๆ คือได้ยินทั้งบริษัท แต่พี่เอลฟ์บอกว่าฟังแล้วมีสมาธิดี เรื่องที่ทำกับพี่เอลฟ์ที่ไม่น่าจะลืมคือ ไปตลาดคนเดียวแล้วทิ้งพี่เอลฟ์ไว้ที่บริษัท
เมาส์
วันแรกเมาส์เป็นคนดีมาก แนะนำเราทุกอย่าง หลังจากวันนั้นก็เปลี่ยนไปจนหน้าใจหาย เป็นคนที่นิสัยเหมือนกันเกินไปเลยอยู่ด้วยกันไม่ได้ต้องมีการทะเลาะกันอยู่ตลอดเวลา ถึงให้ไม่มีคอนเท้นแต่เมาส์ก็ชวนทะเลาะได้เก่งที่สุดเลย สามารถคุยได้ทุกเรื่อง แต่ก็จะไม่ได้อะไรเลยนอกจากการกวนกันไปมาแต่จริงๆเมาส์เป็นคนที่ทำให้เรารู้สึกว่าเมาส์มีอะไรมากกว่าที่เห็นเช่นเรื่องปูกระเบื้อง เรื่องต่อสายไฟ คือเป็นอะไรที่ยอมรับเลยว่าเมาส์เก่งเรื่องการใช้ชีวิตมาก เมาส์ชอบมีประสบการณ์ดีๆมาเล่าให้ฟังเสมอ
วา
วาเป็นเพื่อนผู้หญิงคนแรกในบอ ตอนวามาทุกคนค่อนข้างตื่นเต้น และไม่มีใครเป็นตัวของตัวเอง ต้องแอบเวลาจะพูดเรื่องหยาบคาย แต่พอได้ละลายพฤติกรรมแล้วก็รู้สึกว่า วาเป็นคนตลก ขำง่าย ตอนวามาแรกๆวาชอบพูดคนเดียว จนเรากลัวว่าวาคุยกับใคร5555 วาเป็นคนที่ชนโต๊ะเก่งมาก แล้วก็ทำงานเก่งมาก เวลามีงานวามักจะถามตลอดว่าให้ช่วยให้ทำอะไรหรือเปล่า แล้วก็เป็นคนอาสาทำงานเองตลอด วาเป็นคนคอยจัดการแบ่งเวรเหมือนเป็นคนคอยดูแลทุกอย่าง วาเป็นมือทองในการหุ้งข้าว
มิ้น
ตอนมิ้นมาทุกคนไม่มีใครรู้เลย เป็นการมาแบบงงๆ แต่มิ้นทำกับข้าวเก่งมากเหมือนมากู้ชีพทีมครัวทำให้พี่อรสบายขึ้นเยอะเลย มิ้นชอบพูดไม่รู้เรื่องเหมือนคุยภาษาต่างดาวอยู่ตลอดเวลา มิ้นฟังเพลงดังมากได้ยินทั้งบริษัททั้งๆที่ใส่หูฟัง มิ้นเป็นคนใจดีและก็ชอบซื้อขนมตอนไปตลาด คือถ้ารอของนานมิ้นก็จะหาอะไรกินตลอด กลับมาครัวมิ้นก็จะตั้งใจทำอาหาร และมิ้นชอบล้างจานมาก เหมือนมีความสุขในการล้างจาน แต่มิ้นมักจะโดนแกล้งอยู่เสมอ เพราะว่าเป็นคนแกล้งสนุก
นา
นาเป็นสาวนครที่ทำอาหารเก่งเหมือนกับมิ้น ในครัวคือคอยปรึกษากันว่าทำยังไง ทำแบบไหน ชิมกันจนเกือบได้เข้าโรงพยาบาล ยังเป็นเหตุการ์ณที่ตราตึงใจกันจนถึงทุกวันนี้ นาเป็นคนทำงานดีมาก และก็เป็นคนหน้าดุ แต่จริงๆเป็นคนตลก คือถ้านาทำหน้านิ่งๆทั้งวันคือต้องน่ากลัวมากแน่ๆ ชอบที่นาพกอาหารจากที่บ้านมาด้วย อร่อยมากกกกก โคตรแซ่บบบบ ชอบบบ
กะทิ
กระทิตัวเล็กมากๆ ทั้งๆที่กินเยอะเท่ากับเพื่อนๆ กระทิบอกว่าน้ำหนักขึ้นแต่ไม่มีใครดูออก ชอบเวลากระทิพูด ชอบเสียงกระทิ กระทิตั้งใจในการทำงานมากเพิ่งมาได้ออกไปตลาดด้วยกันสัปดาห์สุดท้ายแล้ว กระทิชอบขำง่ายแบบอะไรนิดหน่อยก็ขำแล้ว มาวันแรกทุกคนตื่นเต้นมากตื่นเต้นสุดคือพี่เอลฟ์ แต่สงสารกระทิสุดเวลาโดนแกล้งจากอาร์ต
อาร์ต
อาร์ตหรือว่ามังกรแห่งเมาเทน คือคนนี้สุดในรุ่นจริง ทั้งเรื่องงานและเรื่องอื่นๆ ตอนที่รู้ว่าจะมีผู้ชายเข้ามาฝึกงาน ก็แบบตื่นเต้นมาก แต่พอเจออาร์ตแล้วก็เหนื่อยใจเลย เหมือนในหัวอาร์ตมีอยู่เรื่องเดียว อาร์ตเป็นคนปากร้ายแต่ใจดี แล้วก็ขี้บ่นมากๆ เช่นถ้าได้ล้างจานเยอะ อาร์ตก็จะบ่น และก็ขี้งอนขี้น้อยใจ ถ้าอยากได้อะไรก็จะพูดดีด้วย แต่ถ้าพูดปกติเหมือนจะหาเรื่องอยู่ตลอดเวลา
ปลาย
ปลายเป็นคนที่มาหลังสุดในรุ่น มาถึงก็ใกล้จะจบแล้ว เรามีสิ่งที่ตราตึงใจด้วยกันบ่อย เช่นเหตุการณ์น้ำมันหมด พร้อมน้ำแข็งถุงใหญ่ แล้วมักจะได้เวรคู่กับปลายอยู่เสมอ ปลายเป็นคนตลกมาก สำเนียงการพูดคือขำ คือตลกตั้งแต่เริ่มพูด คือจะมีคำพีคๆออกมาได้ตลอด โดยเฉพาะเวลาว่ามิ้น สองคนนี้มักมีปากเสียงกันประจำ ชอบผัดหมี่โคราชที่ปลายเอามาสุดๆไปเลย อยากพาปลายไปค่ายมวยเผื่อจะเจอคนที่ถูกใจ
พี่ต๊ะ
ก่อนอื่นต้องขอบคุณที่พี่ต๊ะเลือกหนูเข้ามาฝึกงานที่นี่ รู้สึกเลือกไม่ผิดจริงๆที่ส่งพอร์ตมา พี่ต๊ะสอนหลายๆอย่างทั้งการทำงาน การใช้ชีวิต และทักษะชีวิตหลายอย่างก็ได้จากที่นี่ อีกทั้งยังหลายๆเรื่อง ที่คาดไม่ถึง พี่ต๊ะเป็นคนที่ตลกมาก เวลาขำก็ขำสุด เวลาจริงจังก็จริงจังสุด บางครั้งจริงจังอยู่กลับมาขำเสย ตามไม่ทัน บางมุกที่พี่ต๊ะเล่นก็จะเข้าไม่ถึง แต่ส่วนใหญ่เข้าถึงทุกมุก แล้วก็พี่ต๊ะเป็นคนหูดีมาก บางทีบ่นกับเพื่อนที่โต๊ะพี่ต๊ะยังได้ยิน อีกเรื่องคือพี่ต๊ะเลียนแบบเก่งมาก เช่นฉากล้อเลียนมิ้นคือเหือนจนขำไม่ไหวแล้ว
พี่อร
ชอบฝีมือการทำกับข้าวพี่อรมากๆ อร่อยมากแซ่บสุด พี่อรทำส้มตำอร่อยที่สุด พี่อรเป็นคนที่ทำให้ตื่นเต้นได้ตลอด หลายๆอย่างที่ทำเช่นปูกระเบื้อง พี่อรเป็นผู้หญิงที่เก่งมากๆ ทั้งทำงานทั้งเลี้ยงน้อง พี่อรเป็นหญิงแกร่งจริง หลายๆอย่างที่พี่อรเล่าประสบการณ์ชีวิตในวงอาหารเป็นที่น่าฟังเสมอ แล้วก็ชอบเวลาที่พี่อรเล่าเรื่องน้อง พฬนาการน้องหลายๆเรื่องเลย
น้องฌาดา
ถ้าเกิดน้องฌาดามาอ่านข้อความนี้ น้องน่าจะจำพี่ไม่ได้ แงเศร้าเลย น้องเป็นเด็กเล็กที่ตัวไม่เล็กแล้ว คนแรกที่เราเข้ามาคลุกคลี ไม่คิดว่าจะสามารถล่อหลอกน้องได้ โดยการใช้เพลงเบ้บี้ชาร์ค ช่วงนี้น้องจะอารมณ์แปรปรวนหน่อย เดี๋ยวขำเดี๋ยวโวยวาย ซึ่งเป็นเรื่องตลกมากเวลาน้องร้องแล้วพอเอาขนมล่อน้องก็หยุด
พี่เบ้น
พี่เบ้นคือซูปเปอร์ทีมเดฟที่สุดยอดของน้อง ตอนแรกก็เกร็งๆ ตอนที่พี่เบ้นมาแรกๆ เพราะว่าพี่เบ้นเป็นคนเงียบๆพูดน้อย ความจริงคือพี่เบ้นชอบเล่นมุกอะไรไม่รู้ แบบที่เข้าไม่ถึง บางครั้งต้องแปลไทยเป็นไทยให้พี่เบ้นฟัง และก็แปลที่พี่เบ้นพูดให้ทุกคนฟัง พี่เบ้นชอบกินขนมปังมากและกินเยอะมาก ถ้าไปตลาดด้วยกันคือหมดเงินเยอะ แล้วก็ได้ของมาเยอะมากๆ มีแต่ของหวานกับขนมปัง
พี่ต่อ
ตอนแรกงงมากว่าพี่ต่อเป็นใคร อยู่บ้านเหมือนไม่อยู่ บางครั้งก็งงๆเจอพี่ต่อตอนเดินลงมาจากข้างบน มาได้คุยกับพี่ต่อก็ตอนวงน้ำชา หลังจากนั้นพี่ต่อก็เหมือนไม่อยู่บ้าน แต่รถพี่ต่อคือตราตรึงใจกับเสียงมาก คือตอนเย็นนั่งอยู่ที่บอ พี่ต่อขับรถผ่านหน้าปากซอยคือได้ยินเสียงแล้ว
สุดท้ายแล้วขอบคุณทุกอย่างที่ทำให้เราได้มาเจอกันและได้มาเป็นครอบครัวเมาเทน จะเป็นความทรงจำที่ดีตลอดไปเลย